เพจพลิกชีวิต! "Lowcost cosplay" เมื่อความบ้าพารวย "อนุชา แสงชาติ"
จับเข่าคุยกับศิลปินหนุ่มผู้นำเสนอไอเดียบรรเจิดผ่านวัสดุต้นทุนต่ำ จนกลายเป็นเพจเฟซบุ๊ก "Lowcostcosplay "
โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด
ชายหนุ่มวัย 26 เจ้าของรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ ย้อมผมทอง หน้าตายียวนกวนประสาท มองเผินๆแล้วเหมือนไม่มีอะไรน่าดึงดูด แต่ถ้าได้เห็นวิธีคิด ผลงาน และการนำเสนออันสุดฮาของเขาแล้ว บอกได้คำเดียวว่า มีเสน่ห์มากกกก
จากเด็กกำพร้า จบแค่ม.6 ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเหล้า วันนี้เขากลายเป็นเซเลบแห่งโลกออนไลน์ที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง นี่คือเรื่องราวชีวิตของ ชา-อนุชา แสงชาติ เจ้าของเพจสุดฮอตระดับอินเตอร์ Lowcostcosplay
คุยกับเงา - อยู่กับจินตนาการ
"อนุชา แสงชาติ" เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากพ่อแม่แยกทาง ชีวิตของเขาจมอยู่กับความเหงา สิ่งเดียวที่พาเขาไปสู่ความสุขได้คือ “จินตนาการ”
“สมัยเป็นเด็ก ผมมีชีวิตแบบเหงาๆ อยากเล่นสนุกก็ต้องเล่นคนเดียว จินตนาการเอา เหมือนเราคุยอยู่กับเงา ดีดลูกแก้วคนเดียว คุยคนเดียว ท้าทายตัวเอง ดีดเสร็จก็สลับไปเป็นฝ่ายตรงข้าม จินตนาการว่าสู้อยู่กับเพื่อน พูดง่ายๆ เหมือนสร้างมนุษย์ขึ้นมาอีกคนอ่ะครับ คงเพราะอย่างนี้หรือเปล่า ทำให้เราโตมาเป็นคนแบบนี้” ชายหนุ่มหัวเราะร่า
เขาบอกว่า หากย้อนกลับไปมองชีวิตที่ผ่านมา ทุกการคบหาเพื่อนพี่น้องล้วนแล้วแต่ใช้จินตนาการในการเข้าหาทั้งนั้น ตั้งเเต่สร้างบทสนทนาให้คนสนใจด้วยการเล่านิทาน ใช้คำศัพท์ในเกมร่วมกับชีวิตจริง เรียกว่าใช้จินตนาการเป็นแกนหลักในการดำเนินชีวิต
“ผมชอบใช้จินตนาการ มันสนุก อย่างผมโตมากับเกมแร็คนาร็อค ช่วงเรียนมัธยม อยู่กับเพื่อนก็ชอบเอาเรื่องในเกมมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริง ถึงเวลากินข้าวก็บอก เฮ้ย...ไปซื้อโพชั่นกัน ซึ่งมันคือไอเท็มในเกม”
เจ้าพ่อขายหัวเราะแห่งโลกโซเชียลเล่าให้ฟังว่า ทุกครั้งที่มีคนถามถึงชีวิตจริงว่าเป็นคนตลกไหม ก็มักตอบว่าใช่ ยอมรับว่าพยายามเป็นคนตลกเพื่อให้คนอื่นสนใจมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
“สังคมโรงเรียนมันมีเด็กเกเร เด็กเรียน แล้วก็เด็กที่ไม่มีใครสนใจอย่างผม เราไม่รู้จะมีคาเร็กเตอร์แบบไหนดี เเต่ผมชอบดูตลกคาเฟ่ ชอบมาก คิดในใจว่าถ้าเราเป็นตลกก็น่าจะมีคนชอบเราเหมือนกัน เลยเลือกเดินเส้นทางแนวคอมเมดี้”
ชาจบการศึกษาเพียงแค่ชั้น ม.6 จาก โรงเรียนสันกำแพง ยอมรับว่าคิดสั้น คิดน้อย มองเห็นการศึกษาเป็นเรื่องเสียเวลา ไม่คุ้มค่าเท่ากับการออกไปทำงาน หาเงิน และใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน
“ผมเป็นคนขี้เกียจไม่ชอบเรียน ไม่ชอบอ่านหนังสือ พอจบ ม.6 ก็ตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียว พร้อมมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งคัน ช่วงนั้นขี้เกียจเรียนต่อ คิดแค่ว่าเรียนทำไม เสียเวลาว่ะ ไปเป็นเด็กเสิร์ฟดีกว่า กินเหล้าฟรี ได้เงิน ได้ทิปจากโบกรถด้วย บางวันได้เป็นพัน สบายๆ เก็บตังค์ดีกว่า แต่ทำไปทำมาไม่มีเงินเก็บ ชิบหายเลยทีนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่งไปเล่นพนันบอล เล่นไฮโล หมดเนื้อหมดตัว ต้องไปแซะแผ่นแป้งโรตีกินจากถังขยะ ชีวิตช่วงนั้นเลวมาก วันไหนไม่มีกินก็ไปนอนในบ่อนพนัน แบมือขอเงินคนอื่นก็มี”
อย่างไรก็ตามนาทีนี้ในวัย 26 ปีเจ้าตัววางแผนชีวิตกลับไปศึกษาเล่าเรียนอีกครั้ง ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
บ้านพักคนชรา จุดเริ่มต้น "Lowcost cosplay"
หลังล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตวัยรุ่น เขาตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง หวังพลิกชะตาตัวเอง เสาะหางานทำจนกระทั่งได้รับตำแหน่งผู้ดูแลคนชราในบ้านพักคนชราแห่งหนึ่ง
“อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง กรุงเทพฯ มีอะไรดีวะ เข้ามาก็ไม่รู้จักใคร หางานทำอยู่พัก จนเดินไปเจอป้ายประกาศตรงเสาไฟฟ้า รับสมัครคนดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา ผมหยิบโทรศัพท์โทรไปเลย ใช้วุฒิ ม.6 สมัคร โชคดีมากๆ ที่เขาให้โอกาส”
ไม่น่าเชื่อว่า สถานที่อย่างบ้านพักคนชรา จะกลายเป็นที่แหล่งจุดระเบิดไอเดีย “Lowcost cosplay” เปลี่ยนชีวิตชายหนุ่มผู้ล้มเหลวให้กลายเป็น "เจ้าพ่อไอเดีย" ที่ได้รับความสนใจจากสื่อทั้งในเเละต่างประเทศ
“มีอยู่วันนึงผมนั่งเหงาๆ มองไปที่เสื้อผ้ากองโตของคุณตาคุณยาย มันรู้สึกเหมือนเรากลับไปเป็นเด็ก ป.4 ที่เล่นคนเดียว อยู่กับจินตนาการแห่งความโดดเดี่ยวอีกครั้ง นึกอะไรไม่รู้ หยิบผ้าขนหูสีแดงขึ้นมา คิดถึงชาวสปาตัน จากหนังเรื่อง 300 เอาผ้ามันมาคลุมตัว เบ่งกล้าม แล้วส่องกระจก เฮ้ยนี่มัน ลีโอไนดัส ชัดๆ”
ชาวัย 23 ปีในขณะนั้นควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก พร้อมกับเขียนแคปชั่นประกอบด้วยความสนุกว่า “ข้าคือลีโอไนดัส” โดยไม่รู้จักด้วยซ้ำว่านั่นเรียกว่า คอสเพลย์ (Cosplay)
“เพื่อนบางคนมาเมนต์ มึงทำอะไรของมึง ไปกรุงเทพฯ เพื่อไปทำห่าไรแบบเนี้ยเหรอ บางคนเข้าก็เข้ามาฮา เฮ้ยเจ๋งว่ะ เหมือนคอสเพลย์เลย มันหมายถึงพวกที่เขาแต่งไปโชว์แถวสยาม เราบอก ไม่น่าเรียกคอสเพลย์ว่ะมึง..กูแค่เอาผ้าขนหนูมาใส่ แต่พวกมันบอกเจ๋ง ทำต่อสิวะ เสียงพวกนี้กลายเป็นแรงยุที่ทำให้เราสร้างเพจขึ้นมาใช้ชื่อว่า Lowcost cosplay หมายถึง การนำของง่ายๆ ราคาถูก ต้นทุนต่ำใกล้ตัวมาใช้”
หลังเปิดเพจได้ไม่นาน ภาพลีโอไนดัส ก็ถูกจ่าพิชิตแห่ง Drama-addict เพจยอดนิยม นำไปแชร์ต่อ ทำให้ Lowcost cosplay กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ยอดไลค์พุ่งสูงถึง 5,000 ไลค์ภายในคืนเดียว นับตั้งแต่นั้นชีวิตของเขาเปลี่ยนไปทันที มีผลงานครีเอทออกมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเกือบ 1 ปี ได้ตัดสินใจเดินออกจากงานประจำที่บ้านพักคนชรา มุ่งหน้าสร้างเม็ดเงินด้วยไอเดียอย่างเต็มตัวในช่วงปี 2557 เปลี่ยนชีวิตมนุษย์เงินเดือนค่าเหนื่อยหลักพันสู่หลักแสนในปัจจุบัน
“เพจนี้พลิกชีวิตผมมหาศาล ได้รู้จักเพื่อนใหม่มากมาย มีชีวิตที่ดีขึ้น จากเงินเดือน 7,000 บาทที่บ้านพักคนชรา กลายเป็นทำงานเพียงไม่กี่ชั่วโมง โพสต์เดียวผมก็ได้เงินเป็นหมื่น บางทีเป็นแสน ถ้าทำงานบริษัทผมอาจจะต้องรอทั้งเดือนหรือทั้งปี ที่สำคัญคืองานนี้ไม่มีใครบังคับผม ทำในสิ่งที่ชอบและเป็นตัวเองจริงๆ แต่ถึงวันนี้ผมไม่มีวันลืมอดีตหรอกครับ เพราะมันคือสิ่งที่มีไว้ให้เราหันกลับไปมองว่าเคยผ่านความยากลำบากมาขนาดไหน”
ปัจจุบันบางสเตตัสของ Lowcost cosplay ได้รับเงินทุนจากธุรกิจและสินค้าต่างๆ ที่ว่าจ้างให้เขาออกแบบคอสเพลย์ตามแต่ที่ใจอยากคิด ซึ่งชาเปรียบตัวเองว่าเหมือนนักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ที่ต้องสวมใส่เสื้อที่มีตราสปอนเซอร์มากมาย แลกกับเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด
กล้าคิด กล้าทำ ก่อนหมดเวลา
สามปีที่ผ่านมาไอเดียของอนุชาสร้างความคึกคักและเสียงหัวเราะให้กับวงการโซเชียลมีเดียมากกว่า 1,000 รูป จนเว็บไซต์ชื่อดังระดับโลก ไม่เว้นเเม้กระทั่ง 9gag.com รวบรวมเอาสุดยอดการคอสเพลย์ของเขาไปนำเสนอ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ความฮา คือ ‘วิธีคิด’
“จริงๆ ผมเป็นคนชอบสังเกตอยู่แล้ว ชอบคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน แล้วอยากปลดปล่อยมันออกมา ไม่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้จะชอบวาดการ์ตูน ใช้มุขเล่นคำ เช่น วาดผีธรรมดาไม่น่ากลัว พอวาดเบียร์สิงห์เข้าไปข้างๆ กลายเป็นผีสิงห์เลย แฮ่ ..มุขเรียกเสียงหัวเราะอะไรทำนองนี้ เทคนิคแบบนี้เป็นหลักในการคิดคอสเพลย์ด้วย ส่วนเทคนิคสร้างไอเดียของผมคือ การรู้จักปรับเปลี่ยน พลิกแพลง สมมติมี 5 ไอเดีย 1 2 3 4 5 เราใช้หมดไปแล้ว ผมก็สับเซต เปลี่ยนมาเป็น 12-23-34-45 อะไรอย่างนี้ ไอเดียมันเลยไม่หยุด”
เจ้าของเพจที่มีผู้ติดตามกว่า 8 เเสนคน เผยว่าเกือบ 3 ปีที่ผ่านมารู้สึกภาคภูมิใจมากกับเสียงชื่นชมจากทั้งในและต่างประเทศ ไม่คาดมาก่อนว่าฝรั่งจะชอบมากขนาดนี้ โดยมีการพูดถึงและให้สถานะต่อท้ายชื่อของเขาว่าเป็น ‘ศิลปิน’ เนื่องจากมองว่างานที่ทำเป็นศิลปะที่ใช้ความคิด มีการออกแบบมุมมองใช้เทคนิคในการถ่ายภาพ มากกว่าเพียงแค่คอสเพลย์ขำๆ เท่านั้น
“ใครที่คิดหรือมีไอเดีย ลองทำเลยครับ อย่าไปกลัว ส่วนมากกลัว คิดเยอะ ขี้เกียจ เราต้องทำลายกำแพงตัวเอง บอกตัวเองไว้ว่าพรุ่งนี้โลกจะแตกแล้ว ทำเลย ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเห็นผลงานหรือความคิดของคุณอีกต่อไป ไอเดียมันไม่มีวันหมดก็จริง แต่เวลาที่เสียไปเอากลับคืนมาไม่ได้ จุดระเบิดให้กับตัวเองซะ”
อนุชา แสงชาติ ทิ้งท้าย พร้อมกับบอกว่า ไม่อยากให้ Lowcost cosplay เป็นเพียงแค่เพจของตัวเองเท่านั้น แต่ต้องการให้เป็น คอมมูนิตี้สำหรับความคิดสร้างสรรค์ของทุกคนด้วย