"แกะรอยมือถือเปิดโรมมิ่ง" เบื้องหลังรวบแก๊งบึ้ม
เปิดเบื้องหลังปฏิบัติการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่แกะรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีการโรมมิ่งจากตุรกี
เปิดเบื้องหลังปฏิบัติการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่แกะรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีการโรมมิ่งจากตุรกี
เบื้องหลังการเข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอกของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 100 นาย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.จนสามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยชาวต่างชาติ 1 ราย ที่มีหลักฐานยืนยันว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เป็นความร่วมมือกันระหว่าง ตำรวจที่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีแกะรอยผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือในนครบาลและตำรวจสอบสวนกลาง
ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เรียกทีมสืบสวนที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้เข้าร่วม อาทิ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล พ.ต.อ.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเกิดเหตุจนกระทั่งค่อยๆ ตัดหมายเลขที่ไม่เข้าข่ายต้องสงสัยออกไป โดยใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ พบว่ามีหมายเลขที่เข้าข่ายผู้ต้องสงสัยอยู่ 3 หมายเลข และทั้ง 3 หมายเลขเป็นการโรมมิ่งมาจากประเทศตุรกี พร้อมกับติดตามการใช้งานในวันต่อๆ มา ก่อนจะพบเป้าหมายเคลื่อนไหวอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก และได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 รายเอาไว้ได้
ผลจากการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องสงสัยพบวัตถุระเบิดและวัตถุประกอบระเบิดจำนวนมาก อาทิ ฝักแค ลูกปืนจักรยานยนต์ ท่อเหล็กและฝาปิด ซึ่งคล้ายคลึงกับวัตถุพยานที่เจ้าหน้าที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุราชประสงค์และท่าเรือสาทร
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตว่า เป้าหมายอีก 2 ราย ซึ่งพบการใช้โทรศัพท์มือถือ อาจเป็นมือวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ที่อาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่รายที่จับกุมได้มีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตปลอม ซึ่งจากการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางปลอมเป็นจำนวนมาก