พลิกประวัติ "หมอหยอง" จากหมอดูชื่อดังตกเป็นผู้ต้องหาคดี112
หมอหยองเคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่า ตัวเองนั้นมีโชคชะตาที่ค่อนข้างจะพลิกผัน
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
ชื่อของหมอดู-นักทำนายดวงชะตาชื่อดังอย่าง สุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญามาตรา 112 ฐานความผิดหมิ่นเบื้องสูง ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
เขาถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
หมอหยองในวัย 53 ปี เคยเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษของโครงการ “ปั่นเพื่อแม่ ไบค์ฟอร์มัม” ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างสูง
ล่าสุด หมอหยองถูกวางตัวในตำแหน่งเดิมเพื่อจัดกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ ไบค์ฟอร์แด๊ด” แต่ทว่ากลับตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงเสียเอง
พลิกประวัติความเป็นมาของหมอหยองไม่ธรรมดา นามสกุลเดิมคือ อริยวงศ์โสภณ ก่อนจะได้รับพระราชทานนามสกุล “สุจริตพลวงศ์” เมื่อปี 2551 ซึ่งหมายความถึงเผ่าพันธุ์ที่เจริญรุ่งเรืองด้วยพลังแห่งความสุจริต
หมอหยองโด่งดังมีชื่อเสียงในฐานะนักโหราศาสตร์ชื่อดังระดับแนวหน้า แต่เมื่อกลับจากการศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่อังกฤษ จึงอุทิศตนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน การศึกษา และสังคม โดยใช้วิชาความรู้ที่เรียนมา ผสมผสานกับความสามารถทางจิตวิทยาที่มีอยู่ จึงเข้าสู่วงการการศึกษาอย่างเต็มตัว หวังปลูกสร้างจริยธรรมที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ดังนั้นเราจะเห็นบทบาทของท่านทางด้านวิชาการและสังคม และยุติธุรกิจการดูดวงอย่างเต็มตัว
หมอหยองเคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่า ตัวเองนั้นมีโชคชะตาที่ค่อนข้างจะพลิกผัน จากเด็กชาย จ.ตรัง ที่ต้องวิ่งส่งหนังสือพิมพ์หาเลี้ยงพี่น้องร่วมท้องอีก 9 คน วันหนึ่งขณะที่หมอหยองในวัย 7 ขวบ กำลังส่งหนังสือพิมพ์ เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเขา เมื่อรถตุ๊กตุ๊กพุ่งชนเข้าอย่างจัง เหตุนี้ทำให้หมอหยองหมดสตินานถึง 5 วัน และเมื่อเขาฟื้นชีวิตก็พลิกผัน เมื่อพบว่าความทรงจำห้วงที่หมดสติไปนั้น ได้ไปพบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นหลวงปู่ทวด และมอบพลังบางอย่างไว้ พลังที่ว่านำหมอหยองก้าวเข้าสู่การทำนายดวงชะตาหลายสิบปี
หลักวิชาดูดวงชะตาของหมอหยองเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ หมอหยองเคยบอกเอาไว้ว่า พลังดูดวงนั้นจะใช้งานมากเกินไปไม่ได้ การทำนายดวงชะตาของผู้คน เป็นเรื่องที่จะต้องทำอย่างจริงจัง และแน่นอนไม่สามารถทำนายได้เรื่อยเปื่อย
หมอหยองดูดวงชะตาได้มากที่สุดแค่ 5 คน/วัน เพราะเกินจากนั้นพลังจะอ่อนแรง และจะไม่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ และนั้นก็เป็นคำบัญชาและสัญญาที่องค์เบื้องบนผู้ต่ออายุหลังประสบอุบัติเหตุครั้งวัยเยาว์ได้กำหนดไว้
หมอหยองยุติธุรกิจทำนายดวงชะตาเมื่อปี 2543 ผันตัวเองมาเป็นอาจารย์สอนตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในวิชาการด้านสังคม วิชาโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และด้านจิตวิทยาที่ถนัดเพื่อยังชีพ และยังมีบทบาทในงานสังคมด้านอื่นๆ อย่างกว้างขวาง
ก่อนตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 21 ต.ค.
ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี หรือ มทบ.11 หมอหยองมีอาการป่วยจากความดันโลหิตสูง ประกอบกับมีความเครียดและวิตกกังวล จนถูกนำส่งเข้ารักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนถูกนำกลับมาควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำชั่วคราวเช่นเดิม โดยกรมทราชทัณฑ์ได้ยืนยันมาอย่างต่อเนื่องว่า อาการป่วยของหมอหยองดีขึ้น และหลังจากเข้ารับการรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการก็เป็นปกติดี ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าหมอหยองเสียชีวิตแล้ว
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า หมอหยองได้เสียชีวิตแล้วที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดและได้มีการประสานญาติเพื่อเข้ารับศพแล้ว
เป็นการปิดฉากชีวิต หมอดู-นักทำนายดวงชะตาชื่อดัง ที่มีประวัติไม่ธรรมดาผู้นี้ในที่สุด