ยอดขายรถ 3เดือนแรก มีทั้งรุ่ง-ร่วง
ยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรก มาสด้า-ฟอร์ด-เอ็มจี โตสวนตลาด นิสสัน-ฮอนด้า แผ่ว
ยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรก มาสด้า-ฟอร์ด-เอ็มจี โตสวนตลาด นิสสัน-ฮอนด้า แผ่ว
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทไตรมาสแรกปี 2559 อยู่ที่ 1.09 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 7,995 คัน ขณะที่ยอดขายรวมรถยนต์นั่งของบริษัทอยู่ในอันดับที่ 3 ของตลาดต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2558
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกของปีนี้ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอยู่บ้าง โดยจะเลือกใช้จ่ายกับสิ่งของที่มีความจำเป็นมากกว่า ซึ่งแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่มีปัจจัยบวกเสริมตลาด แต่มองว่าทิศทางของตลาดรถยนต์เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นบ้าง
น.ส.ยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกปี 2559 อยู่ที่ 8,653 คัน เติบโตขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.4% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้เติบโตคือ การตอบรับของผู้บริโภคที่มีต่อฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทช่วงไตรมาส 1/2559 อยู่ที่ 1,600 คัน เพิ่มขึ้น 300% หรือ 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครบไลน์ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น และคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะมียอดขายเทียบเท่าหรือมากกว่ายอดขายของปีก่อนทั้งปีที่อยู่ที่ 3,700 คัน
ด้าน นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.4 หมื่นคัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 1.48 หมื่นคัน โดยมองว่าช่วงเดือน มี.ค. เป็นช่วงที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างเร่งปิดยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายของปีงบประมาณที่วางไว้ของหลายบริษัท โดยเชื่อว่าในไตรมาส 2 จะชะลอตัวลงอีกครั้ง
ขณะที่รายงานข่าวจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรกของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นคัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 2.9 หมื่นคัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ถูกดึงไปล่วงหน้า