ปั้น‘บางแสน’เทียบชั้นไมอามี่ รับนักท่องเที่ยวสูงวัย
"ปัจจุบันบางแสนถูกโหวตให้ติดอันดับ 7 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดของไทย และเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาลองสเตย์ ซึ่งบางแสนเตรียมปรับภาพลักษณ์ให้บางแสนเป็นเมืองที่น่าอยู่"
โดย...พีรดา ปราศรีวงค์
ประชากรทุกประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลการศึกษาของสำนักสำมะโนครัว ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่าอีก 30 ปีข้างหน้า ประมาณปี 2590 ประชากรผู้สูงอายุของโลกที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า หรือประมาณ 600 ล้านคน จากประชากรปัจจุบัน 7,400 ล้านคนทั่วโลก
ทั้งนี้ เห็นได้ว่าปัจจุบันสินค้าและบริการด้านต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ยินดีจ่ายหากสินค้าและบริการสามารถตอบโจทย์ รวมถึงมีความต้องการประเภทสินค้าและบริการเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต) ชัดเจนกว่ากลุ่มลูกค้าอื่น เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เห็นถึงช่องทางการตลาดของนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยทั่วโลกที่เดินทางมาพำนักระยะยาว (ลองสเตย์) ในประเทศไทยได้โดยไม่จำกัดเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เท่านั้น และอยู่ยาวกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น
ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี เล่าว่า เมืองแสนสุข หรือบางแสน มีนโยบายผลักดันให้เทศบาลเป็นต้นแบบการดูแลกลุ่มผู้สูงวัยในพื้นที่ ซึ่งมีประมาณ 6,000 คน จากประชากรทั้งหมด 4 หมื่นคน ให้ได้รับการดูแลผ่านโครงการแสนสุข สมาร์ทซิตี้ มุ่งการเป็นเมืองอัจฉริยะสำหรับผู้สูงวัยเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยดูแลให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
“เมืองแสนสุขได้จัดทำริชแบรนด์ระบบอัจฉริยะให้แก่ผู้สูงวัย กรณีอยู่บ้านเพียงลำพังและเกิดเหตุฉุกเฉินเครื่องเตือนจะสามารถแจ้งรถพยาบาลให้การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันที โดยแนวคิดดังกล่าวช่วยสร้างระบบสมาร์ท ซีเคียวริตี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเมืองให้ก้าวเข้าสู่สมาร์ท ซิตี้ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐ” ณรงค์ชัย กล่าว
สำหรับแผนการผลักดันสมาร์ท ซีเคียวริตี้การสร้างเมืองให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะประชากรกลุ่มผู้สูงวัยช่วยต่อยอดการเป็นเมืองรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าบางแสนมีสถานที่ตั้งภูมิศาสตร์รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยมาใช้บริการได้
ทั้งนี้ เมืองแสนสุขได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ให้คำปรึกษาถึงแผนการพัฒนาเมืองรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยได้อย่างครบวงจร โดยสถานทูตญี่ปุ่นร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวชจัดทำแผนอบรมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร อบรมทักษะความรู้การดูแลปฐมพยาบาลผู้สูงวัยขั้นพื้นฐาน รวมถึงมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาพยาบาลผู้สูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เตรียมแผนผลักดันนักลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศร่วมลงทุนก่อสร้างหมู่บ้าน รองรับการเดินทางมาลองสเตย์ในบางแสนเพิ่มขึ้น เพื่อยืดระยะวันพักให้กับนักท่องเที่ยวอีก 1-2 วัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัย ตลาดสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่นเข้ามาพักมากขึ้น
ณรงค์ชัย บอกอีกว่า เมืองแสนสุขได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำวิจัยแนวทางการส่งเสริม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการบริการกลุ่มผู้สูงวัย โดยใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท สร้างศูนย์เดย์ แคร์ ดูแลผู้สูงวัยในเทศบาล พร้อมต่อยอดการดูแลนักท่องเที่ยว คาดว่าศูนย์ดังกล่าวจะเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2562
“ปัจจุบันบางแสนถูกโหวตให้ติดอันดับ 7 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดของไทย และเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาลองสเตย์ ซึ่งบางแสนเตรียมปรับภาพลักษณ์ให้บางแสนเป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นที่อยู่อาศัยของคนทั่วโลกที่คิดจะมีบ้านพักต่างอากาศ ไม่แพ้ภาพลักษณ์ที่ทั่วโลกมองเมืองไมอามี่” ณรงค์ชัย กล่าวทิ้งท้าย