ดึงซีเอ็นเอ็นถ่ายทอดสดปีใหม่วัดอรุณ
ททท.ทุ่มสุดตัวดึงซีเอ็นเอ็นถ่ายทอดสดเคาต์ดาวน์วัดอรุณ
ททท.ทุ่มสุดตัวดึงซีเอ็นเอ็นถ่ายทอดสดเคาต์ดาวน์วัดอรุณ
นายยุทธศักดิ์ สุภัสสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ใช้งบประมาณ 118 ล้านบาท ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติในหลักการ จัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559 หรือไทยแลนด์ เค้าท์ดาวน์ 2016 ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค.นี้ บริเวณวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดยใช้เป็นแลนด์มาร์คการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่(เค้าท์ดาวน์) แห่งใหม่ของประเทศไทย เพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักรวมถึงต้อนรับการเปิดศักราชใหม่ที่ประเทศไทยและชาติสมาชิกอาเซียน ก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ททท.จะผลักดันให้การจัดงาน เค้าท์ดาวน์ บริเวณวัดอรุณฯ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมติดอันดับการถ่ายทอดสด ให้คนทั่วโลกรับรู้ถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยโดยมีแผนใช้สถานที่วัดอรุณจัดงานอย่างต่อเนื่องทุกปี
"การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น จะมีการเผยแพร่ภาพงานที่วัดอรุณฯ ประเทศไทยโดยอนาคตมองว่างานบริเวณวัดอรุณฯประเทศไทยจะเป็นจุดเริ่มต้นการเผยแพร่ทั่วโลก และจบที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา"นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวเป็นการประกาศถึงความพร้อมการเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) ด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนและฮับการจัดกิจกรรม เค้าท์ดาวน์ในอาเซียนด้วย โดยภายในงานได้จัดกิจกรรม 2 ส่วน คือ ถนนคนเดินแบบวิถีย้อนยุคบริเวณ ถนนมหาราช ช่วงสวนนาคราภิรมย์-ถนนเชตุพน ระยะทาง 300 เมตรภายใต้แนวความคิด เพลิน ชิม ริมวัง ฟังเพลงเคียงสวน และกิจกรรมเค้าท์ดาวน์บริเวณพระปรางวัดอรุณผ่านการแสดงแสงสี เสียงชุดมหากาพย์ นิทานแผ่นดิน เป็นต้น ขณะที่การจัดงานดังกล่าวจะควบคู่กับการสวดมนต์ข้ามคืนเพื่อความเป็นสิริมงคลของคนไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ททท.ได้สนับสนุนการจัดเค้าท์ดาวน์อีก 7 แห่ง ได้แก่ หน้าลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ท่าเทียบเรือ แหลมบาลีฮาย พัทยา แยกโอเดียน ช้อปปิ้งมอลล์ หาดใหญ่ จ.สงขลา ถนนศรีจันทน์ จ.ขอนแก่น และอ.แม่สาย จ.เชียงราย
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่าการจัดงานเค้าท์ดาวน์ขึ้นในหลายพื้นที่ครั้งนี้ คาดว่าวันที่ 31 ธ.ค.- 4 ม.ค. จะมีรายได้สะพัดทั่วประเทศ1.53 หมื่นล้านบาท 3.2 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทย 2.73 ล้านคน ต่างชาติ 4.7 แสนคน
สำหรับแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวไทยปีหน้า คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐอเมริกา ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น
ขณะที่คนไทยจะชะลอเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น โดยได้สั่งให้ททท.ทั้งสำนักงานในและต่างประเทศ เร่งหาโปรดักส์ แชมเปี้ยน เสนอสินค้าการท่องเที่ยวให้ตรงต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละตลาด รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยตลอดทั้งปี เพื่อผลักดันให้ในปีหน้ารายได้ถึงเป้าหมาย 2.3 ล้านล้านบาท