หนุนรัฐลุยท่าเรือแหลมฉบัง

สภาหอการค้าไทยเสนอรัฐเร่งรัดลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง 3,800 ล้าน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้บริหารสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า ได้หารือในเรื่องของการขนส่งทางเรือ โดยทางภาคเอกชนเสนอให้ทางรัฐบาลเร่งรัดการลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สามารถเปิดบริการได้อย่างเต็ม รูปแบบ

ขณะเดียวกัน ทางภาครัฐก็อยากให้ทางเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และการเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่มาใช้บริการรองรับการขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้วเติบโตขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคของบริษัทเดินเรือหลายประเด็นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งในด้านการอำนวยความสะดวกเรือนำร่อง ค่าภาระต่างๆ ที่ยังมีอยู่ โดยกระทรวงคมนาคมจะรับข้อเสนอไปพิจารณาแก้ไขปัญหาให้

สำหรับโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 2 วงเงิน 1,860 ล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และได้มีการก่อสร้างท่าเรือชายฝั่งที่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง และศูนย์การเดินรถไฟวงเงิน 2,000 ล้านบาทแล้ว จึงเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพทางด้านการขนส่งสินค้าได้

ทั้งนี้ ทางภาคเอกชนเห็นว่า ท่าเรือแหลมฉบังยังมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นประตูการค้าที่จะเชื่อมโยงกับทางเรือชายฝั่ง ได้แก่ ท่าเรือสงขลา ท่าเรือตราด และท่าเรือชายฝั่งอื่นๆ ได้ และมีข้อเสนอในการเชื่อมโยงการค้าในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงด้วย

นายภูมินทร์ หะรินสูต ประธานสมาคมเจ้าของเรือไทย เปิดเผยว่า กลุ่มสมาคมอู่ต่อเรือ ซ่อมเรือ เจ้าของเรือ ผู้ประกอบการเรือต่างประเทศ ผู้ประกอบท่าเรือฯ จะเสนอเรื่องนี้ให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ต่อไป

นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เสนอให้มีการเร่งในส่วนของการเข้า-ออกของรถ 500 คัน ระหว่างไทย-กัมพูชา และให้สามารถเข้า-ออกได้ 6 ด่าน จากที่สามารถเข้าออกได้เพียง ด่านเดียว และในส่วนเรื่องที่ทาง เมียนมาได้ร้องขอให้รถสิบล้อสามารถเข้ามาขนสินค้าที่ด่านชายแดนแม่สอด เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ปัจจุบันจะต้องทำการขนถ่ายก่อนกระจายสินค้า เพื่อเป็น การลดปัญหาความแออัดบริเวณหน้าด่าน รวมทั้งจะผลักดันให้ เกิดการสร้างคลังสินค้า ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของการค้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ