ยึดทรัพย์จีทูจีข้าวกลางปีนี้

กรมบัญชีกลางสรุปตัวเลขเรียกค่าเสียหาย 6 นักการเมือง-ขรก. กรณีทุจริตขายข้าวจีทูจีก่อนกลางปีนี้

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง เปิดเผยว่า ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรียกค่าเสียหายทางละเมิดกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 4 สัญญา 6.2 ล้านตัน ในส่วนนักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย มาแล้ว 8 ครั้ง และคาดว่าคณะกรรมการจะได้ข้อสรุปวงเงินในการเรียกค่าเสียหายก่อนกลางปีนี้ จากนั้นจะส่งให้ปลัดกระทรวงการคลังออกประกาศเรียกค่าเสียหายต่อไป

“การเรียกค่าเสียหายกรณีนี้จะต้องทำให้เสร็จภายในเดือน ก.พ. 2560 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการมาแล้ว 8 ครั้ง แต่ยังไม่จบ เพราะคณะกรรมการมีความเห็นที่หลากหลาย และผมในฐานะประธานได้ให้ความสำคัญในเรื่องความละเอียดรอบคอบอย่างมาก แต่คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปวงเงินค่าเสียหายในอีกไม่ช้า และไม่น่าจะเกินกลางปีนี้ เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับภาครัฐ ในขณะที่สังคมก็ให้ความสนใจกรณีนี้มาก ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีฝ่ายการเมืองมาสั่งหรือเร่งรัดอะไร” นายมนัส กล่าว

นายมนัส กล่าวว่า หากกระทรวงการคลังเรียกค่าเสียหายทางละเมิดไปแล้ว แต่นักการเมืองและข้าราชการที่เกี่ยวข้องไม่นำเงินค่าเสียหายมาชดใช้ในเวลาที่กำหนด ก็จะดำเนินการติดตามยึดทรัพย์ต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องต่อศาล

สำหรับนักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่ถูกเรียกค่าเสียหายกรณีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือหมอโด่ง อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดที่มี น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ระบุว่า ได้ส่งมูลค่าความเสียหายที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเอกชน 15 รายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตระบายข้าวจีทูจีไปให้อัยการสูงสุดแล้ว โดยรอให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องกลับมา จากนั้นกระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้เสียหายจะฟ้องศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายภายในเดือน ก.พ. 2559 ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ซึ่งเหลือเวลาอีก 20 วัน

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง ระบุว่า ข้าวในโครงการหายไป 3.9 แสนตัน ว่า ยืนยันว่าข้าวไม่ได้หาย แต่อาจเป็นการลงบัญชีผิดพลาด จึงขอให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด และจะส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้อนุกรรมการในวันที่ 12 ก.พ.นี้