ชี้ชะตาทีพีพีส่อยืดเยื้อ

ฟันธงร่วมทีพีพียืดเยื้อ ภาครัฐ-เอกชน แนะพาณิชย์หาข้อมูลรอบด้าน ก่อนชงข้อมูลถึงนายกฯ 4 เม.ย.นี้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ศึกษาความพร้อมของไทยต่อความตกลง หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ได้สรุปความคิดเห็นเบื้องต้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นผลดี ผลเสีย และแนวทางการเยียวยา หากประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีพีพี ก่อนเสนอข้อมูลให้ที่คณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาตัดสินใจว่าประเทศไทยจะมีท่าทีอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงสาธารณสุข สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เห็นว่าควรหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยรับฟังข้อมูลเชิงลึกจากภาคประชาสังคม และให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปหาข้อมูลเพิ่ม เนื่องจากข้อตกลงทีพีพีจะส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปประเทศทั้งในด้านการค้าและการลงทุน

"ยังฟันธงไม่ได้ว่าไทยควรเข้าทีพีพีหรือไม่ เพราะต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อน และในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ก็ยังบอกไม่ได้ว่า พกค.จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งเป็นไปได้ 2 ทาง คือ อาจจะมีท่าทีว่าไทยจะเข้าร่วมทีพีพี หรือไม่ก็ส่งเรื่องกลับมาให้คณะอนุกรรมการฯ ศึกษาเพิ่มเติม" นางอภิรดี กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุม กพค. วันที่ 4 เม.ย. คาดว่าที่ประชุมและนายกฯ น่าจะยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนใดๆ ออกมา เนื่องจากยังมีเวลาอีก 2 ปี เพราะขณะนี้สมาชิกที่ร่วมก่อตั้ง 12 ประเทศ อยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายภายใน ขณะที่กระทรวงต้องนำผลการศึกษาไปรับฟังความคิดเห็นเชิงลึก และต้องทำความเข้าใจกับภาคสังคมในประเด็นที่มีความอ่อนไหว เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา

นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้เป็นประธานจัดหาข้อมูล ซึ่งหลังจากนี้จะหารือกับภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับยา เพื่อพิจารณาเงื่อนไขที่แต่ละประเทศใช้เป็นแนวทางในการรับมือกับข้อตกลงทีพีพี เช่น ข้อตกลงให้มีบทแนบท้าย (Side Letter) เพื่อเลื่อนกำหนดเวลาเปิดเสรี หรือยกเว้นการเปิดเสรีสินค้าบางรายการ

ทั้งนี้ ไทยยังมีเวลาตัดสินใจ เพราะกลุ่มทีพีพีจะเปิดสมัครรับสมาชิกใหม่ในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังสมาชิก 12 ประเทศ ให้สัตยาบันข้อตกลงครบทุกประเทศ