posttoday

'บีทีเอส'ประมูลรถไฟฟ้าแสนล้าน

01 เมษายน 2559

บีทีเอสทุ่มแสนล้านประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง คาดทีโออาร์เสร็จ มิ.ย.นี้

บีทีเอสทุ่มแสนล้านประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง คาดทีโออาร์เสร็จ มิ.ย.นี้

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าทุกเส้นทางที่รัฐบาลประกาศออกมา ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง ความเร็วปานกลาง หรือรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีต่างๆ ซึ่งร่างทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรงเตรียมประกาศเดือน มิ.ย.นี้

"รถไฟฟ้าสายที่มีความชัดเจนในเวลานี้มี 2 สาย คือ สายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งแต่ละเส้นทางนั้นต้องใช้เงินลงทุนสายละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท รวมแล้ว 2 เส้นทางต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะนี้เราได้เตรียมความพร้อมทางการเงินเบื้องต้นไว้รองรับแล้ว ในรูปแบบกองทุนอินฟราสตรักเจอร์ฟันด์ หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบีทีเอส มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท ใช้ชำระหนี้ไปแล้ว ขณะนี้เหลือเงินสด 2 หมื่นล้านบาท และมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบีทีเอส กรุ๊ป หรือ BTS-Q(3) มูลค่า 4.8 หมื่นล้านบาท" นายคีรี กล่าว

ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป  โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองอยู่ระหว่างการศึกษา 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.เป็นรูปแบบการจ้างเดินรถคือบริษัทซื้อรถและเดินรถ 2.เป็นรูปแบบของการลงทุน 100% ซึ่งรายได้จะมาจากค่าโดยสาร โดยภาครัฐจะขอสนับสนุนโดยไม่ให้เอกชนคิดเงินจากค่างานโยธา ซึ่งหากรายใดที่ขอสนับสนุนเงินค่างานโยธาน้อยที่สุดจะได้งานดังกล่าวไป

สำหรับในปีนี้ บริษัทจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อประมูลซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 ล็อต ประกอบด้วยล็อตแรก 7 ขบวน สำหรับเสริมการใช้งานปกติ 2.ส่วนต่อขยายสายสีเขียวสมุทรปราการ 15 ขบวน และ 3.เพื่อรองรับสายสีเขียวคูคต 21 ขบวน ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนที่สนใจมายื่นซองประมูลแล้ว 6 รายจาก 6 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี จีน เกาหลีใต้ สเปน ฝรั่งเศส แคนาดา ซึ่งจะทราบผลการประมูลซื้อในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้

ทั้งนี้ รายได้ของบีทีเอส กรุ๊ป แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ขนส่ง 2.อสังหาริมทรัพย์ 3.โฆษณา และ 4.บริการ โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากการขนส่ง 60% โฆษณา 30% ที่เหลือ 10% เป็นอสังหาฯ และบริการ ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารเติบโต 5-6% เป็นการเติบโตจากฐานผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น จากปีก่อนจำนวนผู้โดยสารเติบโต 9% เนื่องจากผู้ อยู่อาศัยคอนโดแนวรถไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนธุรกิจอสังหาฯ นั้น บริษัทได้ร่วมกับบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ หรือจีแลนด์ เข้าซื้อที่ดิน บริเวณถนนพหลโยธินตรงข้ามแดนเนรมิต 50 ไร่ มูลค่า 7,400 ล้านบาท คาดว่าแบบในการพัฒนาโครงการดังกล่าวจะเสร็จในปี 2560