ค่าไฟงวดหน้าจ่อปรับตามต้นทุนก๊าซฯ
"เรกูเลเตอร์" คาดค่าไฟงวดใหม่จ่อขยับตามต้นทุนเชื้อเพลิง พร้อมรับมือไฟฟ้าพีกช่วงท่อก๊าซหยุดซ่อม
"เรกูเลเตอร์" คาดค่าไฟงวดใหม่จ่อขยับตามต้นทุนเชื้อเพลิง พร้อมรับมือไฟฟ้าพีกช่วงท่อก๊าซหยุดซ่อม
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2560 มีแนวโน้มสูงขึ้นตามทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และพลังงานทดแทนที่จะเข้าระบบหลากหลายประเภท เช่น โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการระยะที่ 1 ที่จะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 280 เมกะวัตต์ในเดือน มี.ค. พลังงานทดแทนแบบผสมผสาน (เอสพีพีไฮบริด) จำนวน 300 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบ มิ.ย.-ก.ค. 2560 และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนของเอกชนขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) จะเข้าระบบในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้
"ค่าเอฟทีงวดต่อไปมีแนวโน้มสูงขึ้นจากปัจจัยบวกต่างๆ ด้านพลังงานทดแทนยอมรับว่าปีที่ผ่านมามีผลต่อค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น 21 สตางค์ (สต.)/หน่วย แต่ปีนี้คาดว่าพลังงานทดแทนที่เข้าระบบเพิ่มมากขึ้นจะมีผลทำให้ต้นทุนค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอีกประมาณ 20-21 สต./หน่วย" นายวีระพล กล่าว
ด้าน นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ทั้งประเทศจะอยู่ที่ระดับ 32,059 เมกะวัตต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.5% โดยจะเกิดในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.นี้ที่ระดับอุณหภูมิเฉลี่ย 37-40 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-2 เม.ย. มีแผนหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา ส่งผลให้ปริมาณก๊าซหายไปจากระบบ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ลบ.ฟุต)/วัน และมีผลต่อกำลังการผลิตไฟฟ้า 6,400 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงด้านพลังงานและไฟฟ้าตลอด 9 วัน
"กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ ทั้งการเตรียมพร้อมน้ำมันเตา น้ำมันดีเซล ให้การไฟฟ้า 3 ฝ่าย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ดูแลร่วมกับ กกพ. โดยจะสำรองการใช้น้ำมันเตาที่ โรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าราชบุรี ในส่วนการสำรองน้ำมันดีเซลกับโรงไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นการป้องกันความเสี่ยงหากเกิดไฟพีกในช่วงเดียวกัน" นายทวารัฐ กล่าว