การท่าเรือลุยลงทุนสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค

การท่าเรือปักธงลงทุนสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค 4.5 พันล้าน-ยันโครงการท่าเรือ 4 แห่ง 5.4 พันล้านแล้วเสร็จปีนี้

ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า การท่าเรือฯเตรียมเข้าร่วมประมูลเพื่อบริหารสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาคของกรมการขนส่งทางบกที่กำลังทยอยนำออกมาเชิญชวนให้เอกชนลงทุน โดยเฉพาะสถานีขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน รวมทั้งสิ้น 3 แห่ง วงเงินลงทุนรวมที่กรมการขนส่งทางบกคาดการณ์ไว้ราว 4.53 พันล้านบาท ประกอบด้วย โครงการศูนย์ขนส่งสินค้าจังหวัดขอนแก่น วงเงิน 1,351 ล้านบาท สามารถเชื่อมต่อการขนส่งทั้งระบบรางและทางถนนช่วง ขอนแก่น-สระบุรี-ท่าเรือแหลมฉบังและสนับสนุนการขนส่งสินค้าตามแนวชายแดน

โครงการศูนย์ขนส่งสินค้าจังหวัดขอนแก่น วงเงิน 1,220 ล้านบาท เป็นอีกสถานีขนส่งหลักที่สร้างประชิดชายแดน สปป.ลาวเพื่อเชื่อมต่อการค้าและเศรษฐกิจในพื้นที่ศักยภาพแนวชายแดน ผ่านเส้นทาง สปป.ลาว-หนองคาย-ท่าเรือแหลมฉบังและโครงการศูนย์ขนส่งสินค้าแนวชายแดนด่านสะเดาจังหวัดสงขลา วงเงิน 1,960 ล้านบาท รองรับการรวบรวม กระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านเส้นทาง ประเทศมาเลเซีย –ท่าเรือกรุงเทพ – ท่าเรือแหลมฉบัง ตลอดจนสนใจร่วมลงทุนกับเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 2,369 ล้านบาท อีกด้วย โดยหลังจากนี้จะเร่งตั้งบริษัทลูกด้านบริหารทรัพย์สินภายในปีนี้เพื่อเร่งจัดทำแนวทางการลงทุนศูนย์ขนส่งสนิค้าภูมิภาคตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้รูปแบบการร่วมทุนภาคศูนย์ขนส่งสินค้าภูมิภาคตามที่ขบ.ศึกษามาจะเป็นแบบ PPP Gross Cost โดยทางรัฐบาลลงทุนด้านจัดหาที่ดินและก่อสร้างส่วนเอกชนจะลงทุนด้านการบริหาร จัดหาอุปกรณ์การขนส่งและซ่อมบำรุง

“การท่าเรือสนใจเข้าร่วมประมูลศูนย์ขนส่งสินค้าทุกรูปแบบทั้งการร่วมทุนกับเอกชนและเข้าไปดำเนินการทั้งหมด 100% เพื่อยกระดับการขนส่งของ เนื่องจากเรามองว่าถ้าให้คนที่ไม่มีประสบการณ์เข้ามาทำอาจส่งผลให้การขนส่งภาพรวมล้มเหลว ดังนั้นการท่าเรือจึงต้องการเข้าไปลงทุนบริหารเองเพราะมีความพร้อมด้านแนวทางพัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าและการบริหารกิจการขนส่ง”ร.อ.สุทธินันท์กล่าว

ร.อ.สุทธินันท์ กล่าวว่า ส่วนด้านโครงการของการท่าเรือที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้รวมทั้งสิ้น 4 โครงการวงเงินรวม 5,422 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการท่าเรือเอและโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) งบลงทุนรวม 2,944.93 ล้านบาท จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ต.ค.-พ.ค. ปีนี้ และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2561 โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 1,864.19 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแอคชั่นแพลนของกระทรวงคมนาคม เพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางชายฝั่งไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โครงการปรับปรุงพื้นท่า 20G พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า วงเงิน 614 ล้านบาทรองรับตู้สินค้าได้ 2.4 แสนทีอียูต่อปี จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.นี้ และสุดท้ายคือโครงการท่าเทียบเรือ D1 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ มีความลึก 16 เมตรและยาว 700เมตร รองรับสินค้าได้ 1.4ล้าน TEUs ต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในปีที่ผ่านมา เป้าหมายของกทท.ในงบประมาณปี2560 คาดว่าจะมีตู้สินค้าผ่านทั้งสิ้นประมาณ 9.0 ล้าน ทีอียู. แบ่งเป็นทชส.(ท่าเรือเชียงแสน) เรือเทียบท่า 581 เที่ยว ลดลง 30.3% สินค้าผ่านท่า 46,608 ตัน ลดลง 2.4% ทชข.(ท่าเรือเชียงของ) เรือเทียบท่า 191 เที่ยว ลดลง 17.7% สินค้าผ่านท่า 19,015 ตัน ลดลง 7.9% และทรน. (ท่าเรือระนอง) เรือเทียบท่า 53 เที่ยว ลดลง 32.1% สินค้าผ่านท่า 9,113 ตัน ลดลง 80.8%