ปปง.อายัดที่ดินแก๊งพงศ์พัฒน์มูลค่า400ล้าน

ปปง.อายัดที่ดิน 104 รายการมูลค่า400ล้าน ของพงศ์พัฒน์และพวก ส่วนใหญ่อยู่จ.นนทบุรี พบญาติ-น้องเขยถือครองนอมินี

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.เวลา 15.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง. )พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.แถลงผลการประชุมของคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 16/2557 ว่ามีมติอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัศ ฉายาพันธุ์ อดีตรอง ผบช.ก.กับพวก

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เห็นว่าพฤติการ การกระทำของ พล.ต.ท.พงศ์พัศ กับพวกมีลักษณะ มีความผิดฐานฟอกเงิน มาตรา 5 ประกอบมาตรา 10 และมาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อมูลทรัพย์สินชุดแรก ซึ่งเป็นที่ดินจำนวน 136 รายการ ตามที่ สตช.ได้ส่งข้อมูลมาให้ ป.ป.ง.

ทั้งนี้คณะกรรมการฯได้สั่งให้อายัดที่ดินจำนวน 104 รายการ เนื่องจากเป็นการพิจารณาส่วนทรัพย์สินหลังจากได้มาดำรงค์ตำแหน่ง ผบช.ก. ตั้งแต่ 1 ต.ค.2553 มีมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่ครอบครองในชื่อของญาติและน้องเขย แต่ไม่มีชื่อผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะที่เป็นที่ดินเป็นชื่อของ พล.ต.ท.พงศ์พัศน้อยมาก โฉนดที่ดินส่วนใหญ่จังหวัดแถบปริมณฑลรอบๆ กทม. เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม  แต่จะมีมากที่จังหวัดนนทบุรี

อีกทั้งที่ดินบางแปลงพบว่ามีชื่อคนถือครองร่วม 5-6 คนด้วย โดยบุคคลที่มีชื่อครอบครองในที่ดินเหล่านั้น และยังไม่ถูกดำเนินคดีจับกุม ก็จะเปิดโอกาสให้มาชี้แจงต่อ ป.ป.ง.ภายใน 30 วัน ถึงที่มาที่ไป หากชี้แจงไม่ได้ ไม่สมเหตุสมผลก็จะทำการยึดทรัพย์ และจะส่งข้อมูลนี้ให้ทางตำรวจ ส่วนเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตำรวจ

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบ ป.ป.ง. เป็นขั้นตอนภายหลังทหารและ ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ จับกุมและยึดของกลาง นอกจากนี้ทรัพย์สินที่ ป.ป.ง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่มีรถยนต์ 10 คัน และใน 10  คันอาจจะมีรถยนต์หลวงก็ได้

ส่วนวัตถุโบราณอื่นๆก็อยู่ระหว่งการตรวจสอบอยู่ ด้านสมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ตำรวจยังไม่ส่งให้ ป.ป.ง แต่ทาง ป.ป.ง.กำลังขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ผ่านสถาบันการเงิน แต่เชื่อว่าคงไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก เนื่องจากผู้กระทำผิด มีความรู้เรื่องกฏหมายฟอกเงิน จึงไม่ค่อยทำธุระกรรมผ่าน สถาบันการเงิน ดังจะเห็นได้จากเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบทรัพย์สินจำนวนมากซุกซ่อน ในบ้านแทน เป็นไปได้ว่าทรัพย์สินที่เป็นเงินสดอาจจะถูกเคลื่อนย้ายขนผ่านช่องทางต่างๆ ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก และยากต่อการที่ ป.ป.ง.จะตรวจสอบ

นอกจากนี้ของกลาง กว่า 2 หมื่นรายการตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆนั้น ทาง สตช.ยังส่งข้อมูลให้ทาง ป.ป.ง.ไม่ครบถ้วน