อุกอาจ!บุกปล้นร้านปืนกลางกรุง เจ้าของยิงสู้เจ็บ 5 ราย

4 คนร้ายอุกอาจ บุกปล้นร้านปืนย่านวังบูรพา  เจ้าของยิงต่อสู้ บาดเจ็บรวม 5  ราย หลบหนีได้ 1 ราย ล่าสุด สามารถตามจับกุมตัวได้แล้ว

 

เวลา 10.00 น.  วันที่  4 มี.ค.  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเกิดเหตุ 4 คนร้ายชาวจีน บุกปล้นร้านปืน ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์อาร์ม บริเวณห้างสามยอดพลซ่า ถ.เจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพจนเกิดการยิงต่อสู้กันกับเจ้าของร้าน เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนปลอมปล้นร้านดังกล่าว และตำรวจสามารถจับคนร้ายได้  3 คน หลบหนีได้อีก 1 คน  และจากเหตุที่เกิดขึ้น มีผู้รับบาดเจ็บทั้งคนร้าย /เจ้าของร้าน และลูกจ้าง รวม 5 คน เบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

ล่าสุด  พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และพล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายทั้ง 4คน พยายามใช้ปืนบีบีกัน2กระบอกเข้าไปปล้นปืนภายในร้านแต่เจ้าของร้านมีการยิงต่อสู้ขัดขืน ส่งผลให้เจ้าของร้านบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนพนักงานภายในร้านถูกแทงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและขณะเกิดเหตุตำรวจสายตรวจได้รับแจ้งเหตุจึงเข้ามาในพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบคนร้ายกำลังจะหลบหนี จึงยิงสกัดจับคนร้ายได้รับบาดเจ็บ3คน ก่อนที่คนเจ็บทั้งหมดจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ สำหรับจุดเกิดเหตุ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้น พบรถจักรยานยนต์ 2 คันของคนร้าย ที่ใช้ก่อเหตุล้มอยู่บริเวณปากซอยทางเข้าและบริเวณหน้าร้านก่อเหตุ

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายมี 5 คน โดย 4คน เป็นคนก่อเหตุ และมีหัวหน้า 1 คนซึ่งเป็นคนวางแผน ขณะนี้สามารถจับได้ 4 คน และจากการตรวจสอบพาสปอร์ต พบเป็นคนจีนมองโกเลีย เข้ามาไทยเมื่อ 27 กพ.59 ทั้งนี้กลุ่มคนร้าย เข้ามามีจุดประสงค์ เพื่อปล้นปืนโดยเฉพาะ โดยได้มาดูลาดเลา เมื่อวาน(3มี.ค.)  แล้วก่อเหตุ วันนี้

ด้านพยานเห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า พบคนร้ายสวมชุดมิดชิดใส่หมวกกันน็อคปิดบังใบหน้ามารอบริเวณหน้าร้านตั้งแต่ช่วงเช้ากระทั่งตอนเวลา 09.00น.เดินเข้าในร้าน จากนั้นประมาน 5 นาที มีคนตะโกนว่าขโมยและได้ยินเสียงปืนก่อนคนร้ายวิ่งออกมาจากร้าน แต่ บังเอิญมีตำรวจสายตรวจผ่านมาจึงสามารถจับกุมคนร้ายได้

ทั้งนี้ ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่หลบหนีได้แล้วบริเวณใกล้เรือนจำเก่าก่อนนำตัวผู้ต้องมาสอบปากคำที่จุดเกิดเหตุ

 

 

 

 

ภาพจาก ป่อเต็กตึ๊ง205