กรุงศรีฯคาดครึ่งปีหลังเงินทุนไหลเข้าไทยหนุนบาทแข็ง
แบงก์กรุงศรีฯคาดแนวโน้มเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าไทยต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนโดยตรง หนุนเงินบาทปรับแข็งค่าเล็กน้อย คาดสิ้นปีอยู่ที่ระดับ 35-36บาท/เหรียญสหรัฐ
แบงก์กรุงศรีฯคาดแนวโน้มเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าไทยต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนโดยตรง หนุนเงินบาทปรับแข็งค่าเล็กน้อย คาดสิ้นปีอยู่ที่ระดับ 35-36บาท/เหรียญสหรัฐ
นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรียุธยา กล่าวถึง "แนวโน้มค่าเงินและทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง 2559” ว่า แนวโน้มเงินทุนยังมีโอกาสที่จะไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังถือเป็นทิศทางที่ดีต่อการลงทุนของไทย ทั้งในตลาดตราสารหนี้ ตลาดหุ้น และการลงทุนโดยตรง (เอฟดีไอ) เพียงแต่เอฟดีไออาจยังไม่ชัดเจนนัก เน่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังดีมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ซึ่งหลังเบร็กซิท ทำให้ค่าว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยแน่นอนในการประชุมช่วงเดือนนี้ แต่อาจจะเห้นการปรับขึ้นบ้างสักครั้งในช่วงปลายปี ทำให้แนวโน้มเงินบาทจะปรับแข็งค่าขึ้นบ้างแต่ไม่มาก สิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 35 -36 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่เฉพาะในไตรมาส 3 ปีนี้อาจจะอาจจะเห็นปรับแข็งค่าขึ้นไปที่ระดับ 34.50 -36.00 บาท
"แต่ถ้าเงินบาทปรับแข็งค่าหลุด 35 บาท ในช่วง 1-2 วันนี้ก็ถือว่าแข็งค่าเร็วไปนิดหนึ่ง เพราะถ้าเทียบกับสกุลอื่นๆในภูมิภาคมันไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้น อย่างไรก็ดี แม้เบร็กซิทจะผ่านไปแล้ว แต่ตลาดเงินยังมีความผันผวน จากการที่เฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งน่าจะชะลอการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐได้ระดับหนึ่ง บวกกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ ที่อาจจะมีผลต่อการเคล่อนย้ายเงินทุนด้วย เพราะถ้ามีความไม่แน่นอนเงินทุนอาจจะไหลออกได้ ดังนั้น ในครึ่งปีหลังขอแนะนำให้นักลงทุนปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินให้" นายตรรกกล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรียังมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังว่า น่าจะฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก จากปัจจัยบวกในเรื่องของ การลงทุนภาครัฐ ต้นทุนน้ำมันและดอกเบี้ย ซึ่งปีนี้น่าจะเห็นธนาคารแห่งประเทศไทยคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตลอกแปี ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่น่าจะได้ปัจจัยอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีเหตุการณ์เบร็กซิทมากระทบให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และยุโรปบ้างก็คงกระทบการท่องเที่ยวไม่มากนัก ขณะที่ปัจจัยภัยแล้งก็เริ่มบรรเทาลง หลังจากฝนตกต่อเนื่อง ด้านทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยก็ยังสูง บวกกับหนี้ต่างประเทศที่ต่ำ ทำให้เศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่ดีที่รองรับผลกระทบเศรษฐกิจโลกให้มีผลกระทบจำกัด