ประกันแข่งหั่นเบี้ยดึงลูกค้า
ตลาดประกันภัยไตรมาสแรกยังแข่งดุ ตัดราคาเบี้ยทรัพย์สิน 40% ส่วนเบี้ยรถยนต์หันพึ่งรีอินชัวเรอร์ส
ตลาดประกันภัยไตรมาสแรกยังแข่งดุ ตัดราคาเบี้ยทรัพย์สิน 40% ส่วนเบี้ยรถยนต์หันพึ่งรีอินชัวเรอร์ส
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาตลาดประกันวินาศภัยยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะประกันภัยทรัพย์สินลูกค้า รายใหญ่ที่ยังแข่งขันตัดราคาเกินกว่าที่บริษัทคาดไว้ ทำให้ลูกค้าต่ออายุบางส่วนหายไป
"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้เรายังต้องเผชิญความท้าทายต่อไปค่อนข้างสูง จากเดิมที่คาดว่าเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินคงแข่งกันลดราคาลงแค่ 20% แต่ในความเป็นจริงคู่แข่งกลับเสนอตัดราคาลงมาถึง 30-40% ซึ่งถ้าเราสู้ไม่ไหวก็ต้องปล่อยลูกค้าไป และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้การแข่งขันยังคงสูงเหมือนเดิม แต่คาดว่าหลังจากไตรมาส 2 นี้ จะเริ่มมีงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะ โปรเจกต์เกิดขึ้น ส่งผลให้มีเบี้ยใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อหาเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยขยายตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล ขยายตลาดลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริษัทนายหน้า ทีคิวเอ็ม และตลาดการบิน เพื่อรองรับกับสายการบินขนาดเล็กที่เพิ่มขึ้น ทำให้ได้เบี้ยใหม่ในส่วนนี้เพิ่มปีละ 100 ล้านบาท ส่วนตลาดภูมิภาคจะขายผ่านช่องทางธนาคารกรุงเทพเป็นหลักและยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดประกันรถยนต์นั้น ปีนี้การแข่งขันรุนแรงเช่นกัน เนื่องจากเริ่มมีบริษัทประกันหลายแห่งกระจายความเสี่ยงด้วยการหันไปซื้อประกันภัยต่อเฉพาะเบี้ยรถยนต์กับบริษัทรับประกันภัยต่อ หรือ รีอินชัวเรอร์สมากขึ้น จากเดิมจะเก็บเบี้ยรถยนต์ไว้บริหารเอง ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทประกันที่มีรีอินชัวเรอร์สรถยนต์รองรับพร้อมที่จะแข่งขันด้านราคาต่อไป แม้ว่าต้นทุนด้านสินไหมจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่ในทางกลับกันบริษัทประกันที่ไม่มี รีอินชัวเรอร์สรถยนต์รองรับ ก็อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าเบี้ยรถยนต์ให้สอดคล้องกับต้นทุนสินไหม
ล่าสุด บริษัทร่วมกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสเปิดตัวแบบประกันราคาประหยัด "ปลอบใจคนชน" ค่าเบี้ยปีละ 750 บาท ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถไม่เกิน 7 คน โดยกรณีเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยในจะได้เงินชดเชยรายได้วันละ 1,000 บาท/คน ไม่เกิน 30 วัน และได้เงินชดเชยค่าซ่อมรถครั้งละ 5,000 บาท ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี โดยต้องแสดงใบเสร็จค่าซ่อมรถ 1 หมื่นบาทขึ้นไป ตั้งเป้าปีนี้ขายเบี้ยผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสรวมกับแบบประกันอื่นอีกให้ได้ 20 ล้านบาท