5อันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2559

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และตระกูลแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 รวย 6.7 หมื่นล้านบาท สินทรัพย์ตระกูลพุ่งเป็นแสนล้าน ทำสถิติครองแชมป์เศรษฐีหุ้นปีที่ 4 ตระกูลขึ้นแท่นปีที่ 2

วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ผลการจัดอันดับปี 2559 ปรากฏว่า นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือหมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุด 67,245 ล้านบาท รวยขึ้น 4,879 ล้านบาท

หมอเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 3 บริษัท คือ BDMS 18.26% รวมมูลค่า 61,680 ล้านบาท บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 11% มูลค่า 5,503 ล้านบาท และบริษัท โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 62 ล้านบาท และหุ้นที่หมอเสริฐถือปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2558

ตระกูลปราสาททองโอสถยังคงรักษาแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไว้ได้อีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ตระกูลปราสาททองโอสถยังสร้างสถิติใหม่เป็นตระกูลแรกที่มีความมั่งคั่งแตะระดับแสนล้านบาท จาก 5 เครือญาติในตระกูลที่ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าสูงถึง 107,918.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 19,831.76 ล้านบาท หรือ 22.51%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยหุ้นที่คีรีถือครองรวม 29,349 ล้านบาท ลดลง 2,861 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้น BTS 27% มูลค่า 28,382 ล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGF) 0.94% มูลค่า 683 ล้านบาท บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) 0.54% มูลค่า 206 ล้านบาท และ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) 0.51% มูลค่า 77 ล้านบาท อันดับดีขึ้นจากปีก่อนที่เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 เรียกได้ว่าแซงทองมาและสมโภชน์ขึ้นมาได้

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 29,281 ล้านบาท ลดลง 5,999 ล้านบาท  ประกอบด้วย หุ้น PS ในสัดส่วน 54% มูลค่า 29,136 ล้านบาท และ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) 0.86% มูลค่า 145 ล้านบาท ตกจากปีก่อนที่เป็นเศรษฐีอันดับ 2

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ทายาทอาณาจักรโอสถสภา สำหรับพอร์ตหุ้นของนิติมีหุ้น 14 บริษัท มูลค่ารวม 27,147 ล้านบาท รวยขึ้น 7,276 ล้านบาท หรือ 37% เนื่องจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตได้ปรับขึ้น ส่งผลให้นิติรวยขึ้นจากเศรษฐีอันดับ 8 ในปีก่อน

เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 25,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,574 ล้านบาท หรือ 11% ประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 24% มูลค่า 25,589 ล้านบาท และ บริษัท แมนดารินโฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 11 ล้านบาท ยังคงรักษาอันดับความรวยไว้อันดับ 5

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 22,408 ล้านบาท ลดลง 10,088 ล้านบาท หรือ 31% ประกอบด้วย EA ในสัดส่วน 23% มูลค่า 22,381 ล้านบาท และ บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) 0.94% มูลค่า 27 ล้านบาท ตกจากอันดับ 3 เมื่อปีก่อน

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ได้แก่ พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีต รมว.พาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้นมูลค่า 19,887ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,395 ล้านบาท  ประกอบด้วย บริษัท โมโน เทคโนโลยี (MONO) 71% มูลค่า 6,610 ล้านบาท และ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) 26% มูลค่า 13,277 ล้านบาท ยังคงรักษาอันดับเดิมไว้ได้

สำหรับแชมป์เศรษฐีหุ้นตระกูลอื่นมูลค่าหุ้นปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความมั่งคั่งลดลงไป โดยตระกูลจิราธิวัฒน์ปีนี้ยังอยู่ในอันดับ 2 ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 58,142 ล้านบาท ลดลง 407 ล้านบาท ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 42,210 ล้านบาท ลดลง 2,842 ล้านบาท  อันดับ 4 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 35,401 ล้านบาท ลดลง 7,209.94 ล้านบาท และตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตง ถือครองหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 31,613 ล้านบาท ลดลง 10,041 ล้านบาท