นท พนายางกูร เส้นทางสายอินดี้
สาวสายอินดี้ นท พนายางกูร กำลังเดินบนเส้นทางที่เธอเลือกเองกับการทำเพลงแบบไร้ค่าย ไร้สังกัด
โดย...รอนแรม ภาพ... นท พนายางกูร
สาวสายอินดี้ นท พนายางกูร กำลังเดินบนเส้นทางที่เธอเลือกเองกับการทำเพลงแบบไร้ค่าย ไร้สังกัด แล้วไปจับมือกับสหายคอเดียวกันทำเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์อินดี้ที่จะปล่อยให้ฟังเร็วๆ นี้ ด้วยความโดดเด่นทั้งแนวเพลงและสไตล์การแต่งตัว ทำให้ใครๆ ก็ขนานนามเธอว่าเป็น “เด็กแนว” เช่นเดียวกับ “การเดินทาง” นทก็มีเส้นทางในแบบของตัวเอง
เส้นทางสายอินดี้
“นทชอบเที่ยวแบบแบ็กแพ็ก” เธอกล่าวเป็นสิ่งแรกเมื่อถามถึงการเดินทาง อาจไม่ได้หิ้วกระเป๋าเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ตัวยง แต่เธอจะเป็นคนวางแผนการเดินทางเองทั้งหมด
“นทจะไม่ให้อะไรมาปิดกั้นทำให้เราต้องเดินตามทางที่เราไม่อยากไป บางครั้งเราอาจไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในแผน แต่เราก็ยังอยากเดินทางต่อไป ไปเจอสิ่งที่ไม่คาดฝันข้างหน้า ซึ่งมันน่าสนุก
และน่าตื่นเต้นกว่ามาก”
ถามเธอว่า ปกติเลือกสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนเธอตอบว่า “มีอะไรให้เที่ยว เราเที่ยวได้หมด” รวมถึงบางอย่างที่ไม่ใช่สถานที่ อย่างชาวบ้าน ผู้คนระหว่างทาง เธอก็มองว่าเป็นเรื่องราวที่เธอต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยว จะไม่เดินผ่านไป แต่จะหยุดแวะพูดคุยสนทนา ซึ่งแม้ว่าจะต่างชาติต่างภาษา เธอก็สนุกที่จะสื่อสารกัน
แบกเป้ไปยุโรป
ทริปที่สนุกที่สุด เธอเล่าถึงทริปแบกเป้เที่ยวยุโรป นทไปแบ็กแพ็กยุโรปกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ไป 5 ประเทศ โดยลงเครื่องบินที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากนั้นซื้อตั๋วรถไฟแบบยูเรลพาส (Eurail Pass) ไปเดนมาร์ก เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งแต่ละประเทศจะมีการวางไกด์ไลน์คร่าวๆ ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แต่ทุกอย่างค่อนข้างฟรีสไตล์เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ตลอดเวลา
“นทไม่รับงานเลย 1 เดือน เพื่อออกเดินทางเพื่อไปชาร์จพลังให้ตัวเอง หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ” โดยครั้งนั้นเธอเน้นอาศัยนอนบนรถไฟแทนการนอนในโรงแรม เพื่อประหยัดเงินและประหยัดเวลา นอนบ้านเพื่อนที่รู้จัก และนอนในสถานีรถไฟบ้าง! ซึ่งตลอดทริปเสียค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 แสนบาท รวมตั๋วเครื่องบิน
ตามความชอบส่วนตัว เธอชอบยุโรปมากเป็นพิเศษ หนึ่งเพราะความผูกพัน จากที่เคยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อิตาลีนาน 1 ปี สองเพราะวัฒนธรรมที่น่ารัก และเหตุผลแวดล้อมต่างๆ เช่น อากาศดี
อัธยาศัยของผู้คน
“สิ่งแรกที่นทนึกถึงอิตาลีคือ อาหารอร่อยมากและผู้คนเปิดเผยมาก เวลาเจอกันจะหอมแก้มไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ซึ่งตอนแรกที่ไปอยู่ก็ยังไม่ชิน แต่พออยู่ได้สักระยะกลับรู้สึกว่ามันคือความจริงใจของคนอิตาลี”
หลังจากนั้นเธอได้ออกเดินทางไกลและยาวนานอีกหน เมื่อต้องไปฝึกงานที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาฝึกงาน 2 เดือน และเที่ยวต่ออีก 1 เดือน ที่ซานฟรานซิสโก อลาสกา และฮาวาย “เคยไปดำน้ำที่ฮาวายแต่ทะเลของเขาสู้ของเราไม่ได้เลย แบบไม่ได้เลย” เธอย้ำ
นทเป็นนักดำน้ำระดับแอดวานซ์ ซึ่งถ้าให้แนะนำว่าท้องทะเลที่ไหนสวย เธอแนะนำท้องทะเลอันดามันทางใต้ “เวลาไปเที่ยวอย่าทิ้งขยะ อย่าทำร้ายสิ่งที่เรากำลังชื่นชม ไม่ต้องเด็ดใบไม้ เด็ดดอกไม้ ดูแต่ตา มืออย่าต้อง อย่าทิ้งอะไรไว้ที่นั่นนอกจากความประทับใจ ถ้าเราไม่ดูแล ก็คงไม่มีคนอื่นมาดูแลแล้ว” เธอทิ้งท้าย
เส้นทางสายชีวิต
นทไปฝึกงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ในบริษัทแบรนดิ้งที่นิวยอร์ก เธอเล่าว่า นั่นเป็นประสบการณ์การทำงานกับชาวต่างชาติที่ไม่รู้สึกกดดัน แต่กลับรู้สึกสนุก ด้วยความที่เจ้านายให้ทำงานจริง คิดจริงเสนองานจริง ขายงานจริง จนมีงานโลโก้ของนทชิ้นหนึ่งที่ลูกค้าซื้อและนำไปใช้จริงในนิวยอร์ก
ปัจจุบันนทเพิ่งเป็นอิสระ ไม่มีพันธสัญญากับค่ายใดๆ และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท NOTTEE รับงานด้านครีเอทีฟทุกรูปแบบ ซึ่งงานนี้เป็นสิ่งที่เธอรัก และมีแรงบันดาลใจที่จะทำ แต่แรงบันดาลใจนั้นเธอก็ต้องขวนขวายหาจากแหล่งต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการเดินทาง
“ไม่ว่างานจะเยอะขนาดไหน นทต้องหาเวลาเบรก เช่น ช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มต้นอะไรหลายอย่างทั้งบริษัทครีเอทีฟและงานเพลง แต่ก็มีแผนเที่ยวเดือนหน้าแล้ว” เธอจะไปมาเก๊า 3 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานอาร์ตเฟสติวัล “จะไปเคลียร์ตัวเองไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ นำมาใช้กับชีวิตและการทำงาน”
นทกล่าวด้วยว่า การเดินทางสำคัญกับชีวิตตรงที่ว่าเราอยู่บนโลกที่ใหญ่มาก โลกมีคนหลายประเภท หลายภาษา และหลายวัฒนธรรม ที่ล้วนแล้วแต่พร้อมให้เราไปเจอ ไปค้นหา เราเกิดมาแล้วบนโลกใบนี้ ดังนั้นเราควรไปเห็นโลกให้มากที่สุดเท่าที่จะเห็นได้ ถ้าไม่เดินทาง เราก็จะไม่เห็นอะไรใหม่ๆ เราต้องทะลุกล่องออกไป ออกไปเรียนรู้ว่าโลกใบนี้มีอะไรบ้าง ไปเรียนรู้คนอีกซีกโลกหนึ่งว่าเขาใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร มีชุดความคิดแบบไหน ซึ่งการเดินทางเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เราไปเจอสิ่งเหล่านั้น
โลกของสาวอินดี้
ถ้ามีโลกของตัวเองหนึ่งใบ นทอยากให้โลกใบนั้นมีสันติภาพ “เป็นโลกที่ไม่มีการทะเลาะ ไม่มีคอร์รัปชั่น ทุกคนใช้ชีวิตแบบชิลๆ รักกัน นทว่าน่าจะเป็นโลกที่น่าอยู่ดี”
ติดตามผลงานการแสดงในซีรี่ส์เรื่อง U-Prince Series ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 และเดือนนี้เธอจะปล่อยซิงเกิ้ลแรกชื่อเพลง Minus Thirty (ลบสามสิบองศา หมายถึง อุณหภูมิที่คนจะทนได้มากที่สุดก่อนตาย) เป็นแนวเพลงแบบอิเล็กทรอนิกส์อินดี้ซึ่งทั้งอัลบั้มจะเป็นเพลงภาษาอังกฤษทั้งหมด เยี่ยมเยือนโลกอินดี้ของเธอได้ทางอินสตาแกรม @notep