posttoday

ซีอีโอหญิง ‘จินา โอสถศิลป์’ เบื้องหลังค่ายหนังจีดีเอช

22 พฤษภาคม 2560

กลับมาดังเป็นพลุอีกครั้ง กับความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง จากค่ายหนังแห่งความสุขใจ จีดีเอช ที่กวาดรายได้ 100 ล้าน

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย  ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

กลับมาดังเป็นพลุอีกครั้ง กับความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง จากค่ายหนังแห่งความสุขใจ จีดีเอช ที่กวาดรายได้ 100 ล้าน ขึ้นแท่นตำแหน่งหนังดีแห่งปี ซึ่งนอกจากนักแสดงที่คนไทยกล่าวถึงแล้ว คนเบื้องหลังอย่างผู้กำกับและทีมงานก็ต้องชื่นชม (มาก) และยกเครดิตให้

หนึ่งในชื่อที่ปรากฏท้ายเรื่องนั้น มีบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องใดของค่ายก็ต้องมีชื่อ จีน่า-จินา โอสถศิลป์ ที่ได้รับกล่าวขานว่าเป็น หัวเรือผู้ขับเคลื่อนค่ายหนังที่เจ๋งที่สุดแห่งยุคอย่าง จีดีเอช

หญิงเก่งคนนี้เริ่มทำงานในวงการเอเยนซีโฆษณาอยู่หลายปี จากนั้นเธอและรุ่นพี่ เก้ง-จิระ มะลิกุล ได้เข้ามาทำบริษัท หับโห้หิ้น บางกอก ในปี 2534 ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า ในปัจจุบัน

“พี่เก้งเป็นหุ้นส่วนและเป็นพี่ที่ทำงานผู้กำกับมาตลอด” เธอกล่าว “เราค่อนข้างที่จะศรัทธาเขา ทั้งศรัทธาในงาน ศรัทธาในความเป็นตัวตน โดยแรกเริ่มพี่เก้งทำโฆษณา เราก็ซัพพอร์ตเขาทางโฆษณาคือสนับสนุนงานโฆษณาให้ดี ให้มันดีที่สุดในเชิงของการบริหารจัดการ แล้วพอวันหนึ่งพี่เก้งอยากทำหนัง เขาก็บอกให้เรามาช่วยทำ คือเราไม่ได้มาเพราะความเป็นคนทำหนัง แต่มาเพราะว่าอยากมาช่วยงาน เป็นกองหนุนให้คนที่ทำหนังได้ทำหนังที่ดีๆ นั่นคือพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล เราเลยมาช่วยบริหารจัดการและเซตอัพการทำบริษัทต่างๆ เพราะจุดมุ่งหมายของเราตอนนั้นคืออยากทำหนังไทยให้เป็นอาชีพ”

จีน่าอธิบายต่อว่า สมัยก่อนหนังไทยไม่ได้ทำเป็นอาชีพ แต่เป็นการมารวมตัวกันทำเป็นเรื่องๆ พอจบก็ไปหางานอย่างอื่นทำ แต่คำว่า เป็นอาชีพ แปลว่า บริษัทนี้ต้องตั้งอยู่ได้ด้วยการทำหนังไทย และมีเงินกลับมาหล่อเลี้ยงบริษัทให้ทุกคนมีเงินเดือน มีโบนัสเหมือนองค์กรทั่วไป ซึ่งตอนนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้ว่า การทำหนังไทยเป็นอาชีพได้จริง เพราะเธอยึดอาชีพนี้มานาน 12 ปีแล้ว

 

 

ซีอีโอหญิง ‘จินา โอสถศิลป์’ เบื้องหลังค่ายหนังจีดีเอช

 

“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ช่วง 5-6 ปีแรกเราก็ล้มลุกคลุกคลาน ดังนั้นเราต้องมีความอดทน เพราะหนึ่งคือ เราต้องพัฒนางานให้มันดี สองคือ คนทั้งหมดในวงการที่ทำอาชีพทำหนังไทยเป็นงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุกคนก็ต้องใช้เวลาไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นหนังที่เราทำ เราตั้งใจให้มันดีทุกเรื่อง แต่บางเรื่องอาจจะรายได้ไม่ดีเท่าที่เราคาดหวัง มันอาจจะส่งผลขาดทุน แต่เราต้องมีความอดทนและตั้งใจว่า เราต้องค่อยๆ ทำ และในวันที่คนเราเก่งขึ้น วันที่งานของเราดีขึ้น มันก็จะเกิดการยอมรับซึ่งใช้เวลามานานหลายปีในช่วงแรก”

จีดีเอช (GDH) ย่อมาจาก Gross Domestic Happiness หมายถึง หน่อยวัดความสุขใจของคนดูและคนทำ โดยคนทำต้องมีความสุขก่อนเพื่อสร้างงานที่คนดูดูแล้วมีความสุข ส่วนตัวเลข 559 มาจากความตั้งใจที่จะเปิดบริษัทในวันที่ 5 ม.ค. 2559 ซึ่งไปพ้องกับจำนวนหุ้นส่วนที่มีทั้งหมด 59 รายชื่อ และประเดิมหนังเรื่องแรกในนามบริษัทใหม่อย่าง แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ที่สามารถทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน

“การเปิดบริษัทใหม่ แต่เรามีคนเดิมทั้งหมดทำงาน จึงไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพียงแต่ว่าเรามีโอกาสกลับมาทบทวนดูว่า ที่ผ่านมาเราอาจเป็นองค์กรที่ทำงานไปข้างหน้าอย่างเดียว จังหวะที่มีการหยุดชะงักแล้วเริ่มต้นใหม่ มันเหมือนกับมีโอกาสได้มองกลับมายังบริษัทว่า อะไรเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว เราชอบอะไรแล้วอยากทำมันต่อ หรือมีอะไรที่รู้สึกว่ามันย้วยไปไหม มันเกินความจำเป็นไปไหม เราก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เหมือนสร้างบ้านใหม่ เรามีโอกาสที่จะจัดวางเข้าของใหม่ ถ้าเป็นบ้านเดิมอยู่แล้วเราทำงานแต่ละวัน เราคงไม่ได้กลับมาดูมัน” จีน่ากล่าวเพิ่มเติม

ซีอีโอหญิง ‘จินา โอสถศิลป์’ เบื้องหลังค่ายหนังจีดีเอช

สำหรับบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือ โดยส่วนใหญ่คนทำงานในบริษัทแม่จะเป็นเจ้าของบริษัทลูกเหล่านั้นเพื่อทำงานซัพพอร์ตและทำงานคู่กันไป ทั้งบริษัททำโปรดักชั่น บริษัทหาศิลปิน บริษัทโปรโมท บริษัททำไอที บริษัททำขาย และบริษัททำเสียง

การมีบริษัทในเครือนั้น แปลว่า ได้แตกบริษัทใหญ่ให้เล็กลง เพื่อให้แต่คนทำงานได้มีโอกาสพัฒนางานอย่างเจาะจง เพราะการทำงานแบบบริษัทใหญ่ ระบบการทำงานจะเป็นแบบจากบนลงล่าง แต่หากแยกย่อยออกมาทุกคนจะสามารถทำงานในรายละเอียดของตัวเองได้ รวมถึงยังเป็นการฝึกให้เกิดการบริหารและตัดสินใจเองซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาคนได้มาก

บริษัทในครอบครัวจีดีเอช 559 ประกอบด้วย จอกว้างฟิล์ม เป็นบริษัทผลิตทั้งหมด แต่จีดีเอชไม่ได้ถือหุ้นเพราะคนถือหุ้นคือผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ทำให้เขามีอิสระในการรับงาน แต่ที่มีการถือหุ้นอยู่คือ บริษัท นาดาว บางกอก ทำเรื่องบริหารศิลปิน โปรดักชั่น และทำซีรี่ส์ บริษัท ทวีสุข ทำโปรโมท บริษัท งานดีทวีสุข ทำพีอาร์และอีเวนต์ บริษัท เดอะ ซีเคร็ต ฟาร์ม ทำออนไลน์ดิจิทัลเอเยนซี บริษัท เสียงดีทวีสุข ทำเรื่องอัดเสียง และบริษัท กู๊ดติง ทำเรื่องการขาย

กล่าวคือ หับโห้หิ้นเป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นในบริษัทจีดีเอช และจีดีเอชมีอีก 7 บริษัทที่กล่าวไป ซึ่งนับว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่ทำงานเกื้อหนุนกัน โดยจีน่าถือตำแหน่งเป็น “ซีอีโอ” ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและบริหารงานบางส่วน

ซีอีโอหญิง ‘จินา โอสถศิลป์’ เบื้องหลังค่ายหนังจีดีเอช

“พอเราทำงานเป็นอาชีพ เรารู้ว่าเราอยากพัฒนาด้านไหน เราจำเป็นต้องสร้างคน ในภาวะการที่บริษัทยังไม่ดีมากถ้าเราไม่สร้างคน มันจะไม่มีวันโต แต่บริษัทอาจมีปัญหาเรื่องผลประกอบการนิดหน่อย แต่มันต้องสู้ ต้องบริหารการจัดการเรื่องระบบเงินดีๆ และบริหารคน คือ เข้าใจ ‘ใจ’ ของคน เพราะบุคคลเหล่านั้นคือบุคคลที่สำคัญมากในการสร้างงานครีเอทีฟ
ที่ดี

ดังนั้น เราต้องให้เขามีศักยภาพในการทำงานที่เขาถนัด ที่เขาทำได้ดีออกมา ซึ่งหลังบ้านต้องสร้างความมั่นใจให้ คือ มีเงินเดือนที่ดี มีความสบายใจว่าเมื่อทำงานออกไปแล้วจะมีคนดูแล เราก็จะคอยเป็นคนดูแลเขาอีกที รวมถึงสนับสนุน และส่งเสริมทุกอย่างในงานครีเอทีฟที่เขาอยากทำให้เกิดขึ้นจริง บนความเชื่อว่าทุกคนทำอย่างดีที่สุดเพื่อได้งานที่ดี

บริษัทของเราเป็นบริษัทคอนเทนต์ เป้าหมายคือ ผลิตคอนเทนต์ที่ดีที่สุดต้องก่อน แล้วคอนเทนต์นั้นค่อยแปรเปลี่ยนให้มันเกิดรายได้ เมื่อเราเชื่อใจ ไว้วางใจ และมั่นใจว่าเขาทำงานได้ดี เขาก็จะนำศักยภาพและสิ่งต่างๆ ที่เขามีอยู่ออกมาใช้อย่างเต็มที่”

ซีอีโอหญิงกล่าวด้วยว่า คนทำคอนเทนต์ล้วนต้องการผลิตสิ่งที่แปลกและสดใหม่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการลองจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะไม่มีใครบอกได้ว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ของการลองจะดีหรือไม่ แต่ทุกคนต้องมั่นใจกับสิ่งที่ทำอยู่ และต้องมั่นใจไปด้วยกันทั้งทีม นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด