"ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต"คว้ารางวัลซีไรต์ปี58
นวนิยาย เรื่อง "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" ของ "วีรพร นิติประภา" คว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี2558
นวนิยาย เรื่อง "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" ของ "วีรพร นิติประภา" คว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี2558
นวนิยายสะท้อนภาพชีวิต สังคม คนหนุ่มสาวยุคใหม่ ผลงานเล่มแรกของนักเขียนหญิงอดีตคนทำโฆษณาคว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี 2558
เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ณ ห้องเอ็มบาสซี โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสิน และผู้สนับสนุนจัดงานแถลงข่าวประกาศให้นวนิยายเรื่อง ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ของ วีรพร นิติประภา ได้รับรางวัลซีไรต์ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2558
ในคำประกาศของคณะกรรมการตัดสินรางวัลระบุว่า ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ของ วีรพร นิติประภา สะท้อนภาพความล้มเหลวของการบริหารจัดการชีวิตในสังคมเสพติดศิลป์ของคนหนุ่ม สาวยุคใหม่ แสดงให้เห็นผลกระทบของการเผชิญหน้าระหว่างมายาคติกับอุดมคติของสถาบันครอบครัวไทย ในขณะเดียวกันก็รุ่มรวยไปด้วยการหยั่งถึงความงามอันบรรเจิดของศิลปะหลากแขนง รวมทั้งความงดงามของธรรมชาติ ผู้เขียนนำเสนอเรื่องนี้ผ่านสุนทรียภาพ ทางภาษา แสดงภาพตรึงตราตรึงใจโดดเด่น มีภาวะกระทบทางอารมณ์สูงยิ่ง สามารถสรรค์สร้างคำและประโยคที่เป็นอัตลักษณ์ได้ดี
นวนิยายเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์ด้านกลับสำหรับคนรุ่นใหม่เพื่อการหลุดพ้นจากความบอดใบ้ทางปัญญา และการไร้ศรัทธายึดเหนี่ยวในวิถีชีวิต ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ของ วีรพร นิติประภา จึงสมควรได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปีพุทธศักราช 2558"
นางชมัยภร แสงกระจ่าง 1 ใน 7 คณะกรรมการกล่าวว่า “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เป็นนวนิยายที่มีเสน่ห์ น่าอ่านในแง่งามของมิติครอบครัว ที่พยายามชี้นำให้เห็นถึงครอบครัว คลี่คลายทางออกในชีวิตได้อย่างลงตัว ถือเป็นนวนิยายที่มีภาษาลุ่มลึกสวยงาม ซึ่งหาได้ไม่ง่ายในปัจจุบัน”
ขณะ ที่ รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ประธานคณะกรรมการตัดสินกล่าวถึงการทำงานในปีนี้ว่า การตัดสินเป็นไปอย่างเข้มข้น ที่สุดคณะกรรมการทั้ง 7 คน ได้มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เป็นนวนิยายที่สมควรได้รางวัลในปีนี้เพราะแต่งเรื่องได้สะท้อนภาพกลับถึง ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว แล้วยังเป็นการสะท้อนได้ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายถือเป็นนวนิยายที่เหมาะกับยุค สมัยในปัจจุบัน"
วีรพร นิติประภา เกิดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2505 เคยทำงานโฆษณาก่อนจะลาออกมาทำงานอิสระและเขียนหนังสือ 'ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต' นับเป็นนวนิยายเรื่องแรก ซึ่งใช้เวลาในการทำงานนานถึง 3 ปี วีรพร เรียกงานเขียนของตนเองว่าเป็น “นิยายรักน้ำเน่ามาตรฐาน” และแก่นสารสาระสำคัญของนวนิยายเรื่องนี้คือมายาคติ
“ไส้เดือนตาบอดใน เขาวงกต เป็นนิยายที่เล่าเรื่องของตัวละครกลุ่มหนึ่งที่ถูกผลักดันด้วยความหลงใหลใฝ่ ฝันจนลืมสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ ในชีวิต ซึ่งเรียบง่ายกว่านั้นมาก นั่นคือความรักกับมิตรภาพ และที่นำเสนอเป็นนิยายรักน้ำเน่ามาตรฐานนั้น ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า น้ำเน่ามาตรฐานคือโครงเรื่องที่ถูกเล่าซ้ำๆ ในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นในสื่อกระแสหลัก ไม่ว่าจะเป็นนิยาย หรือหนัง หรือละครหลังข่าว ไม่ว่าเรื่องจะเริ่มตรงไหน คลี่คลายไปอย่างไร ถ้าถอดเป็นสูตรออกมาก็จะได้พระเอกนางเอกพบกัน แยกกันไป กลับมาพบกันใหม่ รักกัน มีตัวอิจฉา อุปสรรค การผิดใจ อยู่รายทางระหว่างนั้น ก่อนได้กลับมาครองรักกันในตอนจบโดยไม่รู้ตัว เราทุกคนต่างก็ถูกหล่อหลอมซ้ำๆ ให้เชื่อว่าความรักแท้จริงต้องประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้ ผิดจากนี้มิใช่ความรัก ซึ่งคือมายาคติ ความขัดแย้งระหว่างชนชาติเดียวกัน ในประเทศหนึ่ง ไม่แต่แค่ประเทศไทย ถ้ามองลงไป คุณจะเห็นว่าล้วนถูกผลักดันโดยอคติกับอุดมคติทั้งนั้น ไม่มากกว่านี้ และเราต่างก็วกวนกลับมาที่จุดเดิมๆ”
นักเขียนซีไรต์ปีล่าสุดกล่าวกับ ผู้สื่อข่าวโพสต์ทูเดย์ว่า "สิ่งที่อยากให้ผู้อ่านได้รับจากนิยายเรื่องนี้คือคำถาม แค่คำถามว่าเราเคยอยู่กันมาแบบไหน วันนี้เราอยู่กันแบบไหน และเราจะอยู่กันไปแบบนี้หรือ มีอุดมการณ์ จุดยืน มีคุณค่า คุณธรรม แต่ไม่มีมิตรภาพ ความนุ่มนวลแบบที่เราเคยมีต่อกัน แค่นี้พอไหมที่ชนชาติหนึ่งจะอยู่รอดได้อย่างที่เราเคยอยู่รอดมาถึงวันนี้”
ทั้งนี้ นวนิยายที่เข้ารอบสุดท้าย 9 เล่ม ในปี 2558 ได้แก่
1. กาหลมหรทึก ของ ปราปต์
2. จุติ ของ อุทิศ เหมะมูล
3. เนรเทศ ของ ภู กระดาษ
4. ประเทศเหนือจริง ของ ปองวุฒิ
5. พิพิธภัณฑ์เสียง ของ จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์
6. รักในรอบบาป ของ เงาจันทร์
7.ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ของ วีรพร นิติประภา
8. หรือเป็นเราที่สูญหาย ของ จเด็จ กำจรเดช
9. หลงลบลืมสูญ ของ วิภาส ศรีทอง