อาลีบาบาผนึกทรู ปล่อยกู้ในเซเว่นฯ
อาลีบาบาจับมือทรู ผนึกกำลังขยายเครือข่ายชำระเงินผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมสยายปีกบุกอาเซียน
อาลีบาบาจับมือทรู ผนึกกำลังขยายเครือข่ายชำระเงินผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมสยายปีกบุกอาเซียน
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ปเปิดเผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงให้ แอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบาเข้าถือหุ้นในบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ผู้ให้บริการธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อบริษัท ทรู มันนี่ ในสัดส่วน 20% และในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 30% เพื่อร่วมกันขยายเครือข่ายชำระเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ การเปิดตัวเป็นพันธมิตรจะทำให้เปิดการเชื่อมโยงเครือข่ายชำระเงินระหว่างอาลีเพย์ และทรูมันนี่ในการรับชำระเงิน ซึ่งขณะนี้ลูกค้าอาลีเพย์สามารถชำระเงินผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นได้แล้ว ต่อไปจุดรับชำระของอาลีเพย์จะรับชำระเงินของทรูมันนี่ได้ด้วย ปัจจุบันในจีนมีจุดชำระเงินอาลีเพย์มากกว่า 1.5 ล้านแห่ง ส่วนในไทยมีจุดรับชำระทรูมันนี่กว่า 2 หมื่นแห่ง
นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือใช้เทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งแอสเซนด์จะใช้แพลตฟอร์มฟินเทคของอาลีเพย์มาพัฒนาระบบชำระเงินและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลในการทำธุรกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องการตลาดชำระเงินที่แตกต่างกัน
“ความร่วมมือดังกล่าว ในส่วนของการรับชำระเงินนั้นเริ่มได้ทันที ส่วนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีจะเห็นเป็นรูปธรรมใน 6 เดือน ระหว่างนี้อาลีเพย์จะเรียนรู้จากเราเรื่องอันเดอร์แบงก์ เพราะประชากรจีนส่วนใหญ่มีบัญชีธนาคาร ส่วนอาเซียน ประชากร 60% ไม่มีบัญชีธนาคาร” นายปุณณมาศ กล่าว
ปัจจุบัน ทรูมันนี่มีลูกค้าในระบบ 20 ล้านราย ทรูวอลเล็ต 4 ล้านราย โดยเป็นลูกค้าที่ใช้บริการทางการเงินเป็นประจำ (แอ็กทีฟ) 7 แสนราย ตั้งเป้าหมายการร่วมมือในครั้งนี้จะขยายฐานลูกค้าแอ็กทีฟเพิ่ม 10 เท่าตัว เป็น 7 ล้านราย ภายใน 1-1 ปีครึ่ง และมียอดธุรกรรมเติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 30% โดยปีนี้คาดว่ามียอดธุรกรรมผ่านทรูมันนี่ 7.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับงบลงทุนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็นเท่าตัวจากปีนี้ หรือจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท โดยระยะแรกนี้ยังมุ่งเน้นบริการชำระเงินเป็นหลัก ควบคู่กับการให้สินเชื่อธุรกิจรายย่อยที่เป็นคู่ค้าของบริษัทในเครือซีพี ซึ่งในอนาคตจะต่อยอดขยายไปสู่ธุรกิจการให้สินเชื่ออย่างจริงจัง รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับการลงทุนและประกันด้วย ซึ่งแอสเซนด์ กรุ๊ป มีใบอนุญาตในการให้บริการทางการเงินดังกล่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว
นายอีริค จิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอนท์ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าให้มีจำนวนมากกว่า 2,000 ล้านคน ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า ข้อตกลงทางธุรกิจหรือดีลนี้
จะทำให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น จะมีจำนวนผู้ใช้กว่า 100 ล้านราย ภายในปี 2563 ซึ่งถือเป็นพันธมิตรรายที่ 2 ต่อจากเพย์ทีเอ็มของอินเดีย
ด้าน แอนท์ ไฟแนนเชียล ทำธุรกิจ 5 ประเภท อาทิ การรับชำระเงิน ประกัน เป็นต้น มีลูกค้าใช้งานรวมทุกบริการมากกว่า 1,000 ล้านราย/เดือน