ประเด็นปัญหาในร่างพ.ร.บคอมพิวเตอร์

รุมต้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขัดแย้งนโยบายดิจิทัลอีโคโนมี เอกชนไม่มั่นใจลงทุนหนีเช่าคลาวด์เก็บข้อมูลแทนตั้งเซิร์ฟเวอร์ในไทย

วันที่ 16 ธ.ค. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะลงมติรับหรือไม่รับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) พ.ศ.... หรือร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ วาระ 2 และ 3 ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากพลเมืองเน็ตและภาคธุรกิจ โดยนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับแก้ไขยังคงเต็มไปด้วยจุดบกพร่องจนสังคมออกมาคัดค้านผ่านสื่อออนไลน์หลายแสนคน เนื่องจากมีการตีความฐานความผิดที่กว้างอาจถูกบิดเบือน เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถึงจุดที่จะเป็นทางเลือกแล้วระหว่างความมั่นคงกับสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้นเป็นกฎหมายที่ต้องแก้ไขอยู่แล้ว เพราะมีปัญหาในเรื่องการตีความ การบังคับใช้ และถ้าคนไม่มีความมั่นใจ เรื่องดิจิทัลอีโคโนมีก็จะเกิดไม่ได้

ในขณะที่ นายชาคริต จันทร์รุ่งสกุล บริษัท ไฟร์วันวัน กล่าวว่า หาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้ผ่าน มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทโซเชียลมีเดียระดับโลกอย่าง ไลน์ กูเกิล และเฟซบุ๊ก จะไม่มาตั้งเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย จะกระทบธุรกิจผู้ให้บริการคลาวด์และไอเอสพี (Internet Service Provider) ของไทยแน่นอน

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์สำหรับองค์กร กล่าวว่า กฎหมายนี้จะทำให้ต้นทุนดำเนินงานของผู้ให้บริการคลาวด์ไทยสูงกว่าผู้ให้บริการจากต่างประเทศแน่ จึงอยากให้ภาครัฐชัดเจนเรื่องข้อบังคับควบคุมและแก้ปัญหา เช่น การนำหมายศาลมาขอข้อมูลแต่ละครั้งควรจะมีหน่วยงานตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่ออกมาประเด็นหลักไม่ใช่ซิงเกิ้ลเกตเวย์ รัฐบาลไม่ได้ทำตรงนั้น แต่เพราะการบริการเครือข่ายเหล่านี้มาจากต่างประเทศ เมื่อเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแล้วมีปัญหา และป้องกันปัญหาในวันหน้า เช่น ก่อการร้าย แฮ็กเกอร์ ฉ้อโกง