3รถไฟฟ้าดันราคาที่ดินตลิ่งชันพุ่ง
รถไฟฟ้าสายสีแดง-สีส้ม- สีเขียวต่อขยาย ดันที่ดินตลิ่งชัน-ราชพฤกษ์ขยับแรงจาก 3-4 หมื่น เป็น 8 หมื่น-1 แสน/ตร.ว.
รถไฟฟ้าสายสีแดง-สีส้ม- สีเขียวต่อขยาย ดันที่ดินตลิ่งชัน-ราชพฤกษ์ขยับแรงจาก 3-4 หมื่น เป็น 8 หมื่น-1 แสน/ตร.ว.
นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท นายณ์ เอสเตท เปิดเผยว่า จากการสำรวจที่ดินบริเวณถนนตลิ่งชันตัดกับถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ใกล้กับจุดที่จะมีรถไฟฟ้า 3 สายผ่าน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายบางหว้าตลิ่งชัน ราคาที่ดินปรับขึ้นแรงมากในช่วงเวลาเพียง 2-3 ปี จากตารางวา (ตร.ว.) ละ 3-4 หมื่นบาท ขยับเป็น 8 หมื่น-1 แสนบาท เนื่องจากเป็นทำเลที่จะมีศักยภาพสูงมากในอนาคต
นอกจากนี้ บริเวณตลิ่งชัน-ราชพฤกษ์ยังเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น เนื่องจากใกล้กับถนนราชพฤกษ์มาก แต่มีราคาที่ดินที่ถูกกว่าถนนราชพฤกษ์พอสมควร โดยปัจจุบันที่ดินติดริมถนนราชพฤกษ์มีราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ตร.ว. และหายากมากขึ้น อีกทั้งหากนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านจัดสรรจะเป็นบ้านที่มีราคาสูงมากไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท แต่ถ้าขยับเข้ามาฝั่งถนนตลิ่งชันใกล้กับราชพฤกษ์ที่มีต้นทุนที่ดินที่ต่ำลงมาก สามารถพัฒนาทาวน์เฮาส์ในราคาขายเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาทได้
ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนี้มีต่อเนื่อง แต่ซัพพลายใหม่ๆ เข้าสู่บริเวณนี้ไม่มาก จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทเลือกมาพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับกลางภายใต้แบรนด์ "เฌอคูน" ระดับราคา 5-7 ล้านบาท เป็นโครงการแรกของบริษัทที่บริเวณถนนตลิ่งชัน-ราชพฤกษ์
นายสุธี กล่าวอีกว่า โครงการเฌอคูน ราชพฤกษ์-สาทร อยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ ถนนสวนผัก-ราชพฤกษ์ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น บนที่ดิน 20-30 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 168 ตารางเมตร จำนวน 70 ยูนิต ราคาขายตั้งแต่ 4.99-5.6 ล้านบาท หลังจากทดลองเปิดขายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 45% ซึ่งบริษัทมองว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในเวลานี้ไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลาง-บนยังไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มบ้านหรูระดับราคา 30 ล้านบาท ในไตรมาสแรกถือว่ายังดีอยู่ สะท้อนได้จากยอดขายกลุ่มบ้านหรูของบริษัท ภายใต้แบรนด์พาร์ค พรีวา พระราม 9 แบรนด์ควอเตอร์ 3 โครงการย่านทองหล่อมียอดขายในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาสูงถึง 300 ล้านบาท
สำหรับแผนพัฒนาโครงการของกลุ่มนายณ์ฯ ปีนี้คาดว่าจะมีโครงการใหม่อีก 2 โครงการย่านใจกลางเมือง โดยนับจากนี้จะพัฒนาให้ครอบคลุมเซ็กเมนต์ระดับกลาง-บน แบ่งเป็นแบรนด์ควอเตอร์จะเป็นทาวน์เฮาส์ใจกลางเมืองระดับไฮเอนด์ 30 ล้านบาทขึ้นไป ทาวน์เฮาส์ระดับกลาง 5 ล้านบาทขึ้นไปจะใช้แบรนด์เฌอคูนเน้นทำเลรอบนอกกรุงเทพฯ และคาดว่าจะมีแบรนด์ใหม่เป็นกลุ่มบ้านเดี่ยว 10 ล้านบาท อีกทั้งยังสนใจที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ส่วนเป้ายอดขายปีนี้วางไว้ที่ 1,500 ล้านบาท
ด้านความคืบหน้าแผนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสย่านสีลมเนื้อที่ 6 ไร่ ที่ร่วมทุนกับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังอยู่ระหว่างออกแบบ โดยตามสัญญาจะเข้าใช้พื้นที่ได้ในอีก 3 ปี คาดว่าใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท
ภาพประกอบข่าว