posttoday

ไทยเสี่ยงร้อนสุดอาเซียน17-19มี.ค.หวั่นคลื่น‘ฮีตเวฟ’กระทบซ้ำ

16 มีนาคม 2559

นักวิชาการชี้ปลายสัปดาห์นี้ไทยร้อนที่สุดในอาเซียน เตือนอาจเกิดคลื่นความร้อนทำลายสุขภาพ ผู้สูงวัยและเด็ก

นักวิชาการชี้ปลายสัปดาห์นี้ไทยร้อนที่สุดในอาเซียน เตือนอาจเกิดคลื่นความร้อนทำลายสุขภาพ ผู้สูงวัยและเด็ก

นายจิรพล สินธุนาวา อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปีนี้ประเทศไทยเสี่ยงที่จะตกอยู่ในสภาพอากาศร้อนกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีมวลอากาศร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากปกติในรอบ 50 ปี พัดเข้ามาปกคลุม โดยพบว่าในแผนที่มวลอากาศมีข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยจะร้อนที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนในช่วงวันที่ 17-19 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวล คือ มวลอากาศดังกล่าวมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อน หรือฮีตเวฟ ได้ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิยิ่งสูงขึ้นและร้อนในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยคลื่นความร้อนจะเกิดเมื่อมีองค์ประกอบ คือ อากาศมีอุณหภูมิร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง มีความชื้นสัมพัทธ์เกิน 70%

นายจิรพล กล่าวว่า กลุ่มที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน คือ เด็กที่ต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งระบบระบายความร้อนในร่างกายยังพัฒนาไม่เต็มที่ ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 70 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัว

นายจิรพล กล่าวว่า ปีที่แล้วเคยเกิดคลื่นความร้อนขึ้นที่อินเดีย ประชาชนเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนทั่วประเทศกว่า 2,500 คน จนต้องประกาศมาตรการรับมือด้วยการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วัน จัดเตรียมน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคเพิ่มเติม ประเทศไทยเองก็ควรประกาศข้อพึงปฏิบัติล่วงหน้าด้วย

นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อนุกรรมการวิชาการในกรรมการการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบเมืองหลวงของทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนแล้ว พบว่าตลอดช่วงที่ผ่านมาแทบทุกปี กรุงเทพมหานครครองแชมป์อากาศร้อนที่สุด 

อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่ากรุงเทพฯ จะมีอากาศร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะไม่มีสัญญาณอะไรบอกมากนัก สถิติอากาศในกรุงเทพฯ สูงสุดอยู่ที่ 43.3 องศาเซลเซียส ไม่ถึง 44 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น จ.กำแพงเพชร ตาก หรือกาญจนบุรี น่าจะร้อนถึง 44 องศาเซลเซียส