ปลายเม.ย.ร้อนสุด43องศา
อธิบดีกรมอุตุฯ คาด 6 จังหวัดภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนร้อนถึง 43 องศา ชี้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่า 40 องศา พระอาทิตย์ตั้งฉาก27เม.ย.นี้
อธิบดีกรมอุตุฯ คาด 6 จังหวัดภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนร้อนถึง 43 องศา ชี้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่า 40 องศา พระอาทิตย์ตั้งฉาก27เม.ย.นี้
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นเดือน เม.ย.ถึงต้นเดือน พ.ค.นี้ สภาพอากาศในประเทศไทยจะร้อนมากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงกลางเดือน พ.ค. 2560 โดยภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน จะได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนมากที่สุด และคาดว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 43 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจากลมทะเล และไม่มีเมฆฝนในพื้นที่
ทั้งนี้ ภาคเหนือจะมีอากาศร้อนจัดที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก และลำปาง ขณะที่ภาคกลางตอนบน จะมีอากาศร้อนที่ จ.สุโขทัย อุตรดิตถ์ และที่นครสวรรค์
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวอีกว่า ในส่วนภาคอื่นจะมีอากาศร้อนเช่นกัน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศไทยรับแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงนี้ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังพายุฤดูร้อนด้วยเช่นกันหากมีอากาศที่ร้อนมาก อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แจ้งในช่วงกลางวัน หรือดื่มน้ำบ่อยครั้งเพื่อป้องกันอาการฮีตสโตรก
นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 27 เม.ย. 2560 เวลาประมาณ 12.16 น. ตามเวลาประเทศไทย จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์โคจรอยู่ในแนวตั้งฉากกับเขตกรุงเทพมหานคร ผ่านเหนือศีรษะพอดี ช่วงเวลาดังกล่าว หากออกไปยืนกลางแดด จะไม่เห็นเงาของตัวเองทอดออกไป เนื่องจากแสงอาทิตย์ส่องลงตรงกลางศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสมในบรรยากาศ ฯลฯ ก็อาจส่งผลให้อุณภูมิไม่สูงที่สุดตามที่คาดการณ์กันไว้
นายศรัณย์ กล่าวว่า ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ดวงอาทิตย์จะโคจรมา อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย เริ่มจากใต้สุดของประเทศไทย ณ อ.เบตง จ.ยะลา ในวันที่ 5 เม.ย. 2560 เวลาประมาณ 12.19 น. หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในแนว ตั้งฉากกับพื้นที่เหนือขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 2560 เวลาประมาณ 12.17 น. ดวงอาทิตย์จะ ตั้งฉากกับเหนือสุดของประเทศไทย ณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
วันเดียวกัน เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่เช่น ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม อ.เมือง จ.ลำปาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ส่วนที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พายุฝนพัดบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ จ.อุดรธานี เกิดพายุฤดูร้อนถล่ม 5 อำเภอ เมื่อค่ำวันที่ 23 เม.ย. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย
นายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนในเขต ต.กรุงเก่า และกุดจิก อ.ท่าคันโท หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวม 233 หลังคาเรือน