เงื่อนไข'ทีพีพี'มะกันกุมค้าโลก
เผยข้อตกลงทีพีพี ขยายกรอบลดกำแพงภาษีเพิ่ม จี้มาเลย์-เวียดนามสางปมอื้อ
เผยข้อตกลงทีพีพี ขยายกรอบลดกำแพงภาษีเพิ่ม จี้มาเลย์-เวียดนามสางปมอื้อ
รอยเตอร์ส รายงานว่า สหรัฐได้เปิดเผยเนื้อหาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) จำนวน 6,000 หน้าแล้ว โดยประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ระบุว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐโดยเน้นไปที่แรงงาน มีการยกเลิกกำแพงภาษีราว 98% ช่วยขยายตลาดสำหรับสินค้าและบริการของสหรัฐ อีกทั้งยังทำให้สหรัฐคงสถานะผู้คุมกฎ ต่อไป ซึ่งหากไม่ดำเนินการเองจีนจะเป็นคนดำเนินการ และจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในประเทศ
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกต้องเปิดตลาดรับสินค้าจากต่างชาติมากขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์จากญี่ปุ่นที่จะส่งไปยังสหรัฐ ยาของออสเตรเลียไปยังเปรู และข้าวของสหรัฐไปญี่ปุ่น แต่ทั้ง 12 ประเทศเห็นพ้องกันว่าจะไม่เข้าแทรกแซงค่าเงินของ ตัวเองเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลง ขณะที่รัฐบาลแต่ละชาติต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและประชาชน ให้สัตยาบันทั้งฉบับโดยไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขเนื้อหาได้
นางลอรี วอลลาช ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังการค้าโลกภาคประชาชน กล่าวว่า ข้อตกลงนี้มีเนื้อหาเอนไปทางผลประโยชน์ของสหรัฐมากกว่า และเปิดโอกาสให้ศาลต่างชาติแทรกแซงกฎหมายในประเทศสมาชิก
สำหรับเนื้อหาในบท "แรงงาน" ระบุให้ประเทศสมาชิกกำหนดอัตราค่าแรงและชั่วโมงการทำงานขั้นต่ำ ยกเลิกการค้าสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานบังคับ ให้ความคุ้มครองแรงงาน อนุญาตให้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน อนุญาตให้แรงงานสามารถต่อรองผลประโยชน์ได้ ต่อต้านการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ ตลอดจนป้องกันการเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน โดยเฉพาะในมาเลเซีย เวียดนาม และบรูไน ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมทีพีพี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องยกเลิกมาตรการปกป้องสินค้าเกษตรภายในประเทศ ด้านมาเลเซียต้องออกมาตรการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เต็มรูปแบบ และยกเลิกข้อจำกัดที่มิให้สหภาพแรงงานประท้วง โดยเน้นไปที่ภาคการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากจะมีการเปิดตลาดใหม่สำหรับภาคการผลิตดังกล่าว ขณะที่เวียดนามนั้นต้องอนุญาตให้มีการจัดตั้งสหภาพ แรงงาน และปฏิรูปแรงงานในหลายประเด็น เช่น อัตราค่าแรงขั้นต่ำ และเพิ่มบทลงโทษหากมีการบังคับแรงงาน อย่างไรก็ดี รัฐบาลเวียดนามเห็นชอบตามข้อบังคับ เพื่อแลกกับการขยายเขตการค้า