ทริปล่องเรือสำราญในมหาสมุทรอาร์กติก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เรือสำราญขนาดยักษ์มีแผนล่องเรือข้ามมหาสมุทรอาร์กติกเป็นเวลา 32 วัน ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัย
เรือสำราญขนาดยักษ์มีแผนล่องเรือข้ามมหาสมุทรอาร์กติกเป็นเวลา 32 วัน ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัย
ประวัติศาสตร์ใหม่ต้องจารึก เมื่อเรือสำราญหรูหราบรรจุผู้คนจำนวน 1,500 คนกำลังจะเดินทางผ่านมหาสมุทรอาร์กติก เหนือแคนาดา หนึ่งในพื้นที่ที่ยากแก่การสำรวจ และมีเพียงไม่กี่คนจากทั่วโลกที่ได้ไปเยี่ยมชมความงามของภูมิภาคนี้ด้วยตาของตัวเอง
เรือสำราญลำนี้มีชื่อว่า Crystal Serenity มีแผนการเดินทางทั้งสิ้น 32 วัน ด้วยการเดินทางผ่านช่องแคบของรัสเซีย และสหรัฐอเมริกา จากนั้นเดินทางต่อไปยังเกาะกรีนแลนด์และวนกลับมายังสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามท่ามกลางความน่าตื่นเต้นของทริปเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มีความกังวลบางส่วนจากผู้เกี่ยวข้องว่า ภูมิประเทศที่ยากลำบากนั้นอาจส่งผลให้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเดินทางมาได้อย่างล่าช้า ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น รวมถึงที่นี่ไม่มีเทคโนโลยีและการแพทย์ที่ทันสมัยไว้เอื้ออำนวยอีกด้วย
ด้าน Birger J Vorland กัปตันเรือยืนยันว่า ทริปการเดินทางนี้ปลอดภัย เพราะเรือสำราญลำนี้มีอุปกรณ์ตัดน้ำแข็งโดยเฉพาะ ที่ใช้เวลาในการพัฒนาหลายปี นอกจากนั้นเรือยังมีแผนที่จะแวะเยี่ยมหมู่บ้านชาวประมงอันห่างไกลของแคนาดา ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพียง 400 คนอีกด้วย
ภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบแก่ภูมิภาคอาร์ติกอย่างมาก จากแผนที่ดาวเทียมที่บันทึกไว้เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นชาวงที่หนาวเหน็บที่สุดแสดงให้เห็นว่า แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้นละลายลงไปมากในช่วง 30 ปีมานี้ จากการประมาณพบว่าตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา มีแผ่นน้ำแข็งละลายไปแล้วถึง 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร
ด้านนักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อมแสดงความเป็นห่วงว่าการเดินทางครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ ซึ่งทางบริษัทผู้จัดทริปล่องเรือได้ออกมากล่าวว่า พวกเขาใช้เครื่องยนต์ชนิดพิเศษที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง และน้ำมันน้อยกว่าปกติ
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นเช่นไร และพวกเขาจะได้อะไรบ้างจากการสำรวจครั้งนี้ ไม่แน่ว่าการค้นพบอะไรใหม่ๆอาจมีส่วนช่วยให้นักวิทยาศาสตร์พบหนทางแก้ปัญหาการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นทุกวันก็เป็นได้