R12 ถนนสายเศรษฐกิจ เชื่อม 3 ประเทศ
เส้นทางถนนหมายเลข 12 เป็นถนนที่เชื่อมเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศ คือ ไทย สปป.ลาว และเวียดนาม เข้าด้วยกัน
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
เส้นทางถนนหมายเลข 12 (อาร์12) เป็นถนนที่เชื่อมเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศ คือ ไทย สปป.ลาว และเวียดนาม เข้าด้วยกัน และนับวันถนนเส้นนี้ก็จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ตัดตรงจากไทยผ่าน สปป.ลาว และเวียดนาม เข้าสู่จีนตอนใต้ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่
เส้นทางสาย อาร์12 เมื่อ 3-4 ปีก่อน สภาพถนนโดยรวมยังค่อนข้างลำบากอยู่ เนื่องจากเป็นทางลูกรังและถนนแคบลัดเลาะไปตามแนวเขาตลอดทั้งเส้นทาง แต่จากการเดินทางกลับไปอีกครั้ง พบว่าถนนเริ่มมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ในบางช่วงมีการลาดยางแล้ว รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการขยายถนนให้กว้างขึ้น เพื่อลดความแออัดให้รถบรรทุกใหญ่สามารถขับสวนเลนกันได้โดยที่ไม่ต้องจอดหลบรอ
เหตุนี้จึงทำในช่วงแรกๆ มีรถบรรทุกสัญจรเพียงวันละ 30 เที่ยว แต่จากการที่เป็นทางคมนาคมขนส่งที่ตัดตรงและมีระยะทางใกล้ที่สุด จึงทำให้ถนนสายนี้เป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าในกลุ่มผักและผลไม้ สินค้าเกษตร และโคมีชีวิต ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถบรรทุกสัญจรผ่านถนนเส้นนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 100 เที่ยว
โครงการพัฒนาเส้นทางถนนหมายเลข 12 จากนครพนมของไทย เข้าไปคำม่วน-ท่าแขกของ สปป.ลาว ก่อนจะออกไปยังด่านจาลอ เข้าสู่เมืองกวางบิงห์ของเวียดนาม ระยะทาง 147 กิโลเมตร เกิดจากการประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีไทยและ สปป.ลาว ในการหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากถนนสาย อาร์8 และ อาร์12 เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงเส้นทางในการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวบนเส้นทางดังกล่าว โดยคณะรัฐมนตรีไทยได้มอบหมายให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) หรือเนด้า ดำเนินการศึกษา
ทั้งนี้ เนด้าอยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาโครงการพัฒนาเส้นทางถนนหมายเลข 12 ขณะนี้มีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา 6 ราย มีทั้งเอกชนและสถาบัน อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาเร็วๆ นี้ คาดว่าศึกษาแล้วเสร็จภายในปีนี้ ส่วนปี 2562 ก็จะเดินหน้าอนุมัติโครงการพร้อมเจรจากับ สปป.ลาว เรื่องเงินกู้ในการดำเนินงาน เริ่มต้นภายในปี 2562 หรือต้นปี 2563 และจะพร้อมเปิดให้บริการปี 2564
อย่างไรก็ดี คาดว่าเมื่อถนนเส้นทาง อาร์12 ปรับปรุงแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งระหว่างไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-มณฑลกว่างสี (จีนตอนใต้) เพิ่มโอกาสการลงทุนของนักธุรกิจไทยในการลงทุนที่ สปป.ลาว และเวียดนามมากขึ้น สนับสนุน ส่งออกสินค้าไทยไปยังเมืองและประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทาง อาร์12 ทั้งการค้าชายแดน สปป.ลาว และการค้าผ่านแดนเวียดนามและจีนตอนใต้ ที่มีความนิยมบริโภคสินค้าไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะต้องขายให้พ่อค้าคนกลางในเวียดนามก่อนที่จะเข้าสู่จีนในฐานะสินค้าเวียดนามก็ตาม
นอกจากนี้ ถนนสาย อาร์12 ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดตามแนวชายแดนไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เนื่องจากประชาชนลาวและเวียดนามสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทางถนนได้สะดวก โดยเส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเวียดนามใกล้ที่สุด
สำหรับมูลค่าเศรษฐกิจด่านชายแดนบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จ.นครพนม นั้น ในปี 2560 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าหากโครงการพัฒนาถนนสาย อาร์12 แล้วเสร็จ จะทำให้เศรษฐกิจบริเวณดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และการที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนด้วย ก็เชื่อว่าจะทำให้ จ.นครพนม เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าได้