สิบสองปันนาลงทุน 2 พันล้าน จับมือเชียงแสนขนส่งแม่น้ำโขง
การค้าขายในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงกำลังคืบหน้า และมีการพัฒนามากขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุด
โดย...ชินภัทร์ ไชยมล
การค้าขายในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงกำลังคืบหน้า และมีการพัฒนามากขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุด ช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา คณะผู้แทนจากประเทศไทย ประกอบด้วย กฤษณะ ชาสมบัติ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผกายมาศ เวียร์รา เกศสุดา สังขกร รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ชาติชาย สุจินพรหม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน และ ณัฐพล รัชตะศิลปิน หัวหน้าแผนกการท่าและสินค้าท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ได้เข้าร่วมประชุมกับพาณิชย์และอุตสาหกรรมเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา หอการค้าสิบสองปันนา สมาคมผู้นำเข้า-ส่งออกสิบสองปันนา ทางตอนใต้ของมณฑลคุนหมิง ประเทศจีน
หัวข้อการหารือคือ การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ในเส้นทาง R3A และการขนส่งสินค้าทางแม่น้ำโขง จากท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย มายังท่าเรือกวนเหล่ย การบริการรองรับตู้คอนเทนเนอร์ เข้าท่าเรือกวนเหล่ย การบริการห้องเย็น เพื่อรับอาหารแช่แข็ง โดยเน้นอาหารแช่แข็งทุกชนิด
กฤษณะ ชาสมบัติ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการหารือดังกล่าว ทางจีนได้ชี้แจงว่ารัฐบาลกลางกรุงปักกิ่ง ต้องการดำเนินนโยบาย One Belt One Road เน้นด้านตะวันตกของภูมิภาค จะพัฒนาขนส่งทางน้ำ เส้นทางแม่น้ำล้านช้าง หรือแม่น้ำโขง
“เพื่อพัฒนาการขนส่งสินค้าทางแม่น้ำโขง รัฐบาลจีนได้ลงทุนสร้างห้องเย็นขนาดใหญริมแม่น้ำโขง ด้วยการลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านหยวน ประกอบด้วยห้องเย็นรับอาหารแช่แข็งทุกชนิด ลานตู้คอนเทนเนอร์ เครนยกตู้ ห้องแล็บตรวจสินค้า รวมไปถึงห้องเย็นมาตรฐานนำเข้า-ส่งออก ผักสด-ผลไม้”
ตัวแทนจากกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยผลการหารืออีกว่า สำหรับเขตเศรษฐกิจมณฑลยูนนาน มณฑลเสฉวน และมณฑลกุ้ยโจว ให้ใช้เส้นทางแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ที่ท่าเรือกวนเหล่ย เป็นช่องทางพิเศษ ช่องทางเดียว และอนุญาตให้ขนส่งอาหารแช่แข็งด้วยการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิเท่านั้น
“สำหรับโครงการห้องเย็นนี้ กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 ม.ค. 2560 พร้อมมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือกรมเจ้าท่าสิบสองปันนา กวนเหล่ย การท่าเรือสิบสองปันนา กวนเหล่ย ศุลกากรสิบสองปันนา เมืองหล้า-กวนเหล่ย ตรวจพืช รวมทั้งพิธีการศุลกากร หรือ CIQ” นายกฤษณะ กล่าว
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุม ประธานสมาคมนำเข้า-ส่งออกสิบสองปันนา ได้ถามความพร้อมของทางท่าเรือเชียงแสนว่า พร้อมสำหรับการรองรับตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าจำนวนมาก โดยต้องมีเครนมาตรฐานในการยกตู้ขนาด 40 ฟุต ลงเรือขนส่งคอนเทนเนอร์ พร้อมประกาศในที่ประชุมว่าจีนยินดีที่จะลงทุนร่วมหากฝ่ายไทยเปิดโอกาสให้
น่าจับตาเส้นทางการค้าด้านเหนือ ทั้งเส้นทางบก ผ่านถนน R3A และเส้นทางน้ำผ่านแม่น้ำโขง ซึ่งเส้นทางทั้งสองสายนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์หลัก ที่ทั้งไทยและจีนตั้งใจจะพัฒนาด้วยกันทั้งสองฝ่าย