AI ทำพิษ สู่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ 2.5 ล้านตันในปี 2030

16 ธันวาคม 2567

ข่าวความสำเร็จในการพัฒนา AI เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้เราจะพาไปดูอีกด้านของความก้าวหน้า เมื่อ AI ที่กำลังเฟื่องฟูกำลังก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์กองมหึมา

ปัจจุบันเทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทำให้เกิดการแข่งขันผลักดันเพื่อชิงส่วนแบ่งความเป็นเจ้าตลาดในสาขาเทคโนโลยีนำไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตามการสร้าง AI ประสิทธิภาพสูงทั่วโลกก็อาจนำไปสู่ปัญหาใหม่ได้เช่นกัน

 

วันนี้เราจึงมาพูดถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของปัญญาประดิษฐ์

 

AI ทำพิษ สู่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ 2.5 ล้านตันในปี 2030

 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ต้นทุนแฝงของการพัฒนา AI

 

เราทราบกันดีว่าเบื้องหลังขีดความสามารถน่าทึ่งของ AI ต้องอาศัยกำลังประมวลผลมหาศาล โดยเฉพาะโมเดลที่มีความฉลาดและความเร็วสูงล้วนใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ต้องอาศัยอุปกรณ์ประมวลผลโดยเฉพาะ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ปริมาณมหาศาล เช่น Colossus ของ xAI ที่มีจำนวน GPU ในระบบมากกว่า 100,000 ใบ

 

จริงอยู่ความก้าวหน้าของ AI ทำให้การดำเนินชีวิตของเราง่ายและสะดวกขึ้น แต่นั่นก็นำไปสู่การตั้งคำถามเมื่ออายุการใช้งานของ GPU เหล่านี้หมดลง หากต้องการรักษากำลังประมวลผลไว้พวกเขาก็ต้องเปลี่ยนเอาชิ้นส่วนเดิมออก นั่นจะทำให้ GPU รุ่นเก่ากลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์กองมโหฬาร

 

สิ่งนี้ยิ่งน่ากังวลเมื่อบริษัทเทคโนโลยีต่างทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อสร้าง AI ส่งผลต่อให้ฮาร์ดแวร์ของอุตสาหกรรม AI มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สิ่งนี้จะยิ่งไปเร่งเวลาอายุการใช้งานให้ลดลง และซ้ำเติมปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ทวีความรุนแรงจากทั่วทุกมุมโลก

 

จากข้อมูลในปี 2023 ระบุว่าอุตสาหกรรม AI ก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นกว่า 2,600 ล้านตัน และหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมคาดว่า ในปี 2030 ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นอาจเพิ่มเป็น 2.5 ล้านตันภายในปีเดียว ซึ่งอาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีจำนวนหลายสิบล้านตันต่อปีให้รุนแรงยิ่งขึ้น

 

เห็นได้ชัดว่าการเติบโตและขยายตัวของ AI ในปัจจุบันอาจสร้างปัญหาต่อโลกได้มากกว่าที่คิด

 

AI ทำพิษ สู่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ 2.5 ล้านตันในปี 2030

 

ผลกระทบจากขยะอิเล็กทรอนิกส์และ AI

 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีอันตรายและก่อให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน โดยพื้นฐานขยะอิเล็กทรอนิกส์จะมีสารเคมีอันตรายหลายชนิด เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และปรอท หากไม่มีการจัดการอย่างถูกวิธีอาจรั่วไหลไปในดินและน้ำ เกิดการปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง

 

เมื่อเกิดการปนเปื้อนสารพิษเหล่านี้จะทำลายความอุดมสมบูรณ์ของหน้าดิน เป็นมลพิษต่อระบบนิเวศจนทำให้พื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถเพาะปลูกหรือใช้ประโยชน์ได้ อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนเป็นลูกโซ่ สำหรับสิ่งมีชีวิตก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลต่อทางเดินหายใจ ระบบประสาท และพัฒนาการทางสมองในเด็กเล็ก

 

การจัดการอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ปัจจุบันมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการจัดการอย่างถูกวิธีอยู่ราว 20% เท่านั้น ในขณะที่ส่วนใหญ่ไม่มีแนวทางรับมือหรือจัดการที่ดีพอ มักถูกนำไปฝังกลบหรือส่งเข้าเตาเผา นำไปสู่การปนเปื้อนและกระจายมลพิษในอากาศมากขึ้นไปอีก

 

นอกจากนี้ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์เองก็ยิ่งซ้ำเติมปัญหาให้ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะประเด็นที่สหรัฐฯห้ามไม่ให้ขายชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงแก่จีนยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลง เนื่องจากจีนต้องอาศัยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีความล้าสมัย จนต้องทดแทนด้วยจำนวนการใช้งานที่มากขึ้น

 

สิ่งนี้อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์หรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน อาจจำเป็นต้องติดตั้ง GPU เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิมเพื่อให้มีอัตราการประมวลผลเทียบเท่าสหรัฐฯ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ยิ่งทวีความรุนแรง จนคาดว่าในปี 2030 ขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจทำให้ตะกั่วกว่า 1 ล้านตัน และสารเคมีอันตรายอื่นๆ เจือปนในสิ่งแวดล้อม จนอาจส่งผลกระทบต่อผู้คนเป็นวงกว้าง

 

ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าความก้าวหน้าของ AI ในปัจจุบันมีต้นทุนแฝงและอาจก่อให้เกิดปัญหามากมายในอนาคต

 

 

 

นั่นทำให้แนวทางจัดการอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรได้รับความสำคัญ ไม่เพียงการดึงโลหะมีค่ากลับมาใช้ประโยชน์ แต่ต้องเป็นการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ทั้งการรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ซ้ำ นอกจากนี้ยังอาจต้องมีข้อบังคับและกฎระเบียบเพิ่มเติม เพื่อดูแลควบคุมขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน

 

นี่เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความใส่ใจอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นอาจซ้ำรอยภาวะโลกร้อนและไมโครพลาสติกในไม่ช้า

 

 

 

ที่มา

 

https://theroundup.org/global-e-waste-statistics/

 

https://interestingengineering.com/science/ai-revolution-mountains-of-e-waste

 

https://thaipublica.org/2024/11/sunisa31-e-waste-from-ai/

 

https://techsauce.co/news/elon-musk-praises-xai-nvidia-colossus-worlds-most-powerful-ai-supercomputer

 

Thailand Web Stat