ดร.เอ้ เผย 4 ปัจจัยหลักทำให้เวียดนามดึง NVIDIA สนใจลงทุน
ข่าว NVIDIA ลงทุนจัดตั้ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) นับเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงการลงทุนและเทคโนโลยี วันนี้ดร.เอ้จะมาเปิดเผยว่า เหตุใดเวียดนามจึงน่าสนใจทางการลงทุนและกำลังทะยานอย่างก้าวกระโดด
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์(ดร.เอ้) อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงมุมมองที่น่าสนใจผ่านทาง X กับการที่ NVIDIA ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี AI ตัดสินใจลงทุนในเวียดนาม พร้อมชี้ว่านี่คือบทเรียนสำคัญที่ประเทศไทยควรให้ความสนใจ
ดร.สุชัชวีร์ เล่าว่าเขาได้ข้อมูลจาก เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ NVIDIA กับการที่บริษัทกำลังจะเปิดศูนย์ออกแบบและวิจัยในเวียดนาม แม้ทางเจนเซ่น หวงจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ เขาจึงคาดการณ์ออกมาเป็น 4 เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายในการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ
1. คุณภาพคนเวียดนาม
เวียดนามลงทุนอย่างจริงจังในระบบการศึกษา ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับปริญญาเอก โดยเฉพาะในสาขาวิศวกรรมและคอมพิวเตอร์ เด็กเวียดนามมีความสามารถโดดเด่น คะแนน PISA ของพวกเขาสูงเป็นอันดับสองในอาเซียนรองจากสิงคโปร์ และยังส่งเยาวชนไปเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ
2. การสนับสนุนการลงทุน
รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ด้วยการให้สิทธิพิเศษมากมาย เช่น การตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และสนับสนุนให้ SME ในประเทศเรียนรู้เทคโนโลยีจากบริษัทข้ามชาติ แนวทางนี้คล้ายกับจีนที่ดึง Tesla เข้ามาสร้างฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จนในที่สุดสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศให้แข่งขันได้อย่างเต็มที่
3. นโยบายต่อเนื่อง
หนึ่งในจุดแข็งของเวียดนามคือ ความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล ไม่ว่าผู้นำจะเปลี่ยนไปกี่ครั้ง การสนับสนุนทางนโยบายและเม็ดเงินก็ยังได้รับการสานต่อ เช่น นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 1986 และการเข้าร่วม WTO ในปี 2007 สิ่งเหล่านี้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ทำให้ประเทศมีความมั่นคงจนจูงใจในการลงทุน
4. ความสามัคคีและชาตินิยม
แม้จะผ่านความยากลำบากในช่วงก่อตั้งประเทศ แต่เวียดนามมีความเหนียวแน่นและความเป็นชาตินิยมที่สูง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนี้เองที่เป็นเฟืองสำคัญที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ โดยการผลักดันขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและการแข่งขันทางอุตสาหกรรมด้านต่างๆ จนอาจเป็นผู้นำเศรษฐกิจอาเซียนและผงาดได้แบบเกาหลีใต้ในอนาคต
ดร.เอ้ยังเสริมว่า แม้คนไทยจะมีศักยภาพไม่น้อยหน้าชาติใด แต่การขาดความต่อเนื่องในนโยบายและการไม่ปรับตัวให้เข้าสู่โหมดแข่งขันอย่างจริงจัง อาจทำให้เราสูญเสียโอกาสสำคัญที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้