posttoday

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย

09 มกราคม 2568

AWS เปิดบริการโครงสร้างพื้นฐาน Asia Pacific (Thailand) Region เดินหน้าแผนลงทุน 1.9 แสนล้านบาท คาดช่วยเพิ่มมูลค่าจีดีพีไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลล์ สร้างงานไม่น้อยกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี

KEY

POINTS

  • การเปิดตัวโครงสร้างพื้นฐาน AWS Region ใหม่นี้  

  AWS เปิดให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน Asia Pacific (Thailand) Region 
- ช่วยให้ลูกค้าใช้งานบริการคลาวด์ได้รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยการจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศ  
- แสดงถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของ AWS ในการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น  

  • ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย   

- AWS มีแผนลงทุนมากกว่า  5 พันล้านเหรียญสหรัฐในประเทศไทย   
- คาดว่าจะสร้างการจ้างงานโดยเฉลี่ยกว่า  11,000 ตำแหน่งต่อปี   
- สนับสนุน GDP ของไทยเพิ่มขึ้นประมาณ  1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ   

  • ลูกค้าและองค์กรที่ใช้บริการ AWS   

- ลูกค้าในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้บริการ AWS เช่น  2C2P, Ascend Money, ธนาคารกรุงศรีฯ, CP Group, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย   
- ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ  
- ใช้ AWS ในการพัฒนาโซลูชันและนวัตกรรมด้านดิจิทัล
 

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส (AWS) เผยว่า เอดับบลิวเอส พร้อมให้บริการ AWS Asia Pacific (Thailand) Region อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ (8 ม.ค.2568)

การเปิดตัวนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา สตาร์ตอัป ผู้ประกอบการ องค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ให้มีตัวเลือกมากขึ้นในการใช้งานแอปพลิเคชัน และให้บริการลูกค้าผ่านศูนย์ข้อมูลของเอดับบลิวเอสที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย

เอดับบลิวเอสเชื่อว่า การลงทุนสร้าง และดำเนินงานของ AWS Region แห่งใหม่ในไทยนี้จะส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยเฉพาะต่อเศรษฐกิจไทย และชุมชน รวมถึงโอกาสในการจ้างงาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ตลอดจนการพัฒนาทักษะของบุคลากรภายในประเทศ

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย
 

คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับจีดีพีของประเทศไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันสนับสนุนการจ้างงานเต็มเวลาเฉลี่ยมากกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปีในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมหลากหลายสาขา ได้แก่ การก่อสร้าง การดูแลรักษาอาคาร วิศวกรรม โทรคมนาคม และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ

รีเจียน (Region) แห่งใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทย สามารถใช้ประโยชน์จากคลาวด์ และเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Generative AI ได้ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เปิดโอกาสให้คนในประเทศได้รับโอกาสเสริมทักษะด้านเทคโนโลยี ที่สำคัญช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญ

ปราสาท กัลยาณรามัน รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานของ AWS กล่าวว่า “เราเห็นธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหันมาใช้บริการคลาวด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากลูกค้าหลายรายได้ค้นพบประโยชน์อันมหาศาลจากระบบคลาวด์ที่ครอบคลุม น่าเชื่อถือ และปลอดภัยที่สุดในโลกของเรา AWS Region แห่งใหม่ในประเทศไทยจะช่วยให้ลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้งานแอปพลิเคชันขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี AWS ที่หลากหลาย ซึ่งประกอบด้วยบริการพื้นฐาน เช่น การประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ และระบบเครือข่าย และบริการชั้นสูงที่ช่วยให้ธุรกิจก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่น AI และแมชชีนเลิร์นนิง AWS รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาค”

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย
 

สำหรับโอกาสทางธุรกิจ เฟสแรกคาดว่าจะเป็นภาคการเงินการธนาคาร การผลิต รวมถึงค้าปลีกที่มีการใช้งานคลาวด์จำนวนมาก และที่ตื่นตัวอย่างมากยังมีเฮลท์แคร์ โดยระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ทางเอดับบลิวเอสได้เตรียมโครงการสำหรับช่วยลูกค้าย้ายเวิร์กโหลดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายไว้ด้วย

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย

การเปิดตัว AWS Asia Pacific (Thailand) Region ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพทางเทคโนโลยีคลาวด์ของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีจุดเด่นและประโยชน์สำคัญดังนี้

1. ความพร้อมใช้งานสูงและโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
- AWS Region ใหม่นี้ประกอบด้วย 3 Availability Zones (AZs) ซึ่งมีระบบไฟฟ้า ทำความเย็น และรักษาความปลอดภัยที่เป็นอิสระจากกัน
- เชื่อมต่อด้วยเครือข่ายความหน่วงต่ำ พร้อมระบบสำรองหลายชั้น
- สนับสนุนการออกแบบแอปพลิเคชันให้มีความยืดหยุ่น ทนทาน และรองรับการขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ความครอบคลุมของบริการ AWS
- มีบริการที่หลากหลาย เช่น การประมวลผลข้อมูล ฐานข้อมูล IoT แมชชีนเลิร์นนิง Generative AI การจัดเก็บข้อมูล และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ช่วยให้บริษัททุกขนาดและหน่วยงานภาครัฐเร่งนวัตกรรม ลดต้นทุน และเพิ่มความเร็วในการทำงาน

3. ผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจไทย
- ธุรกิจชั้นนำในไทย เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group), และ KBTG ใช้บริการ AWS เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล
- ตัวอย่างความสำเร็จ:
  - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้ AWS ในโครงการ Krungsri Cloud Program ให้บริการแก่ผู้ใช้งานกว่า 12 ล้านคน
  - KBTG พัฒนาโซลูชันฟินเทคและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยบริการของ AWS
  - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้ AWS รองรับแพลตฟอร์มซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์สำหรับผู้ใช้งานกว่า 500,000 รายพร้อมกัน

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย

4. สนับสนุนระบบนิเวศทางดิจิทัล
- การเปิด AWS Local Zones และ Amazon CloudFront Edge Locations ในกรุงเทพฯ ช่วยลดความหน่วงและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
- สนับสนุนโครงการ Health Link และ Travel Link เพื่อยกระดับการใช้ข้อมูลในด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยว
- สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในไทย เช่น True IDC, NTT DATA, และ Dailitech

5. การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา
- AWS ได้ฝึกอบรมทักษะคลาวด์ให้คนไทยมากกว่า 50,000 คน ตั้งแต่ปี 2560
- โครงการสำคัญ:
  - AWS Academy ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทยกว่า 30 แห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล
  - AWS Skills to Jobs Tech Alliance ฝึกทักษะคลาวด์ให้กับนักเรียนมัธยมและอาชีวศึกษา

AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย

6. การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย
- การลงทุนใน AWS Region ใหม่ย้ำบทบาทของไทยในฐานะผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค
- ช่วยธุรกิจไทยขยายสู่ตลาดโลกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

7 ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน

Amazon มีเป้าหมายชัดเจนในการเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าที่จะบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในทุกการดำเนินงานภายในปีพ.ศ. 2583 ซึ่งเร็วกว่าข้อตกลงปารีสถึง 10 ปี Amazon เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง The Climate Pledge และเป็นบริษัทแรกที่ลงนามในปีพ.ศ. 2562

AWS มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับปรุงการออกแบบศูนย์ข้อมูล การลงทุนในชิปที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อระบายความร้อนแบบใหม่ จากรายงานของ Accenture ที่ได้รับมอบหมายจาก AWS พบว่า โครงสร้างพื้นฐานของ AWS มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้งานระบบไอทีภายในองค์กรถึง 4.1 เท่า และการใช้งานบน AWS สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้สูงสุดถึง 99% ด้วย AWS Asia Pacific (Thailand) Region ใหม่ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์ด้านความยั่งยืนของ AWS ที่มีในทุกโครงสร้างพื้นฐาน

การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแค่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกภาคส่วน
AWS เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ใหม่ รองรับธุรกิจในไทย