ผลสำรวจชี้ สาวก Apple 80% ยอมจ่ายเงินเพื่อใช้ Apple Intelligence
ผลสำรวจ Morgan Stanley ชี้ สาวก Apple กว่า 80% พร้อม 'ควักกระเป๋า' เพื่อเข้าถึงบริการ Apple Intelligence ท่ามกลางกระแสวิเคราะห์ว่า Apple อาจใช้โมเดล 'Freemium' ในอนาคต
แม้แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใหม่ของ Apple อย่าง Apple Intelligence จะเผชิญคลื่นวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง ทั้งเรื่องความล่าช้าของฟีเจอร์และความสามารถที่ถูกมองว่ายังตามหลังคู่แข่ง
ทว่าผลสำรวจล่าสุดกลับชี้ให้เห็นภาพที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากสาวก Apple ส่วนใหญ่ถึง 80% พร้อมที่จะ 'ควักกระเป๋า' จ่ายเงินเพื่อเข้าถึงบริการ Apple Intelligence จนสร้างความประหลาดใจในแวดวงเทคโนโลยี
ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดย Morgan Stanley บริษัทด้านการลงทุนชั้นนำ ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคกว่า 3,300 คนในสหรัฐอเมริกา เพื่อทำความเข้าใจมุมมองที่มีต่อ Apple Intelligence
ตัวเลขที่น่าสนใจคือ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่ง (49%) ระบุว่ายินดีจ่ายค่าบริการรายเดือนอย่างน้อย 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 360 บาท) เพื่อใช้งาน Apple Intelligence เต็มรูปแบบ
ขณะที่ กลุ่มที่ยินดีจ่ายในอัตรา 10-14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน อยู่ที่ 30% และอีก 22% พร้อมจ่ายในอัตรา 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 540 บาท) ขึ้นไป
มีเพียงส่วนน้อยคือ 14% ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อใช้งาน Apple Intelligence และ 6% ที่ยังไม่ตัดสินใจ
เมื่อรวมตัวเลขต่างๆออกมาแล้ว ผลสำรวจสรุปว่าราว 80% ของสาวก Apple ในกลุ่มตัวอย่างพร้อมที่จะ 'ควักกระเป๋า' จ่ายเงินเพื่อเข้าถึงบริการ Apple Intelligence
นอกจากนี้ ตามรายงานของ 9to5Mac ตัวเลขจากการสำรวจ ยังบ่งชี้ว่า Apple Intelligence มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ
โดย 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า Apple Intelligence เป็นปัจจัย "สำคัญอย่างยิ่งยวด" หรือ "สำคัญมาก" ในการตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone รุ่นถัดไป
และตัวเลขนี้พุ่งสูงถึง 54% ในกลุ่มสาวก Apple ที่วางแผนอัปเกรดเครื่องภายใน 12 เดือนข้างหน้า
ซึ่ง Morgan Stanley ชี้ว่าแสดงให้เห็นถึง "ศักยภาพ" และ "การยอมรับเบื้องต้น" ที่ผู้บริโภคมีต่อ Apple Intelligence และอาจไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่กระแสวิจารณ์ในช่วงแรกชี้วัด
ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ Apple ในการเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ของตนต่อไปในอนาคต
ส่องแนวโน้ม Apple Intelligence เรียกเก็บค่าบริการ?
รายงานจาก 9to5Mac วิเคราะห์ว่า มีเหตุผล 2 ประการที่ Apple อาจเรียกเก็บค่าบริการ Apple Intelligence ในอนาคต
1.ต้นทุนการดำเนินงานของโมเดล Generative AI ที่สูงลิ่ว
การประมวลผลและการรักษาโมเดลเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นภาระทางการเงินที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
นอกจากนี้ Apple ยังไม่ใช่บริษัทที่พร้อมให้บริการ 'ฟรี' แบบไร้ขีดจำกัด เห็นได้จากบริการฟรี iCloud ที่ยังคงจำกัดพื้นที่เพียง 5GB ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันของผู้ใช้
2. รายได้จากส่วนบริการ (Services) มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปีที่แล้ว ส่วนบริการ (Services) คิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของรายได้รวมของ Apple และที่น่าสนใจคือมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 73%
ด้วยเหตุผลทั้งด้านต้นทุนการดำเนินงานที่สูงและความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของส่วนบริการ
ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ Apple จะนำโมเดล 'Freemium' มาใช้กับ Apple Intelligence ในลักษณะเดียวกับบริการ Generative AI อื่นๆ ในตลาด
นั่นคือการมีระดับการใช้งาน 'ฟรี' แต่จำกัดฟังก์ชันหรือปริมาณการใช้งาน และมีระดับ 'เสียเงิน' เพื่อปลดล็อกความสามารถที่ครอบคลุมและขั้นสูงกว่า