หั่นภาษีอีวีเหลือ0%ครม.ให้เวลา3ปีหวังลดฝุ่นพิษ

ครม.คลอดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 0% เป็นระยะเวลา 3 ปี กระตุ้นให้ ผู้ผลิตลงทุนเร็วขึ้น เครื่องยนต์ดีเซลได้อานิสงส์เร่งยกมาตรฐานยูโร5

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี โดยลดภาษีสรรพสามิตตามงื่อนไขสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563-31 ธ.ค. 2565 รวม 3 ปี จากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566-31 ธ.ค. 2568 ให้ใช้อัตราภาษี 2% ตามเดิม คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ประเภทรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู (ดับเบิ้ลแค็บ) หากมีค่าฝุ่น PM ไม่เกิน 0.005 กรัม/กิโลเมตร (กม.) หรือเครื่องยนต์ดีเซลประเภทไบโอดีเซล ไม่น้อยกว่า 20% เป็นส่วนผสมกับน้ำมัน (บี20) เพื่อลดการปล่อย PM2.5 ลง

สำหรับรถกระบะไม่มีแค็บที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดอัตราภาษีจาก 2.5% เหลือ 2% ปล่อยคาร์บอนเกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 4% เหลือ 3% รถยนต์กระบะสเปซแค็บปล่อยคาร์บอนไม่เกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 4% เหลือ 3% ปล่อยคาร์บอนเกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 4% เหลือ 3% ปล่อยคาร์บอนเกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 6% เหลือ 5%

ขณะที่รถยนต์กระบะ (ดับเบิ้ลแค็บ) ปล่อยคาร์บอนไม่เกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 10% เหลือ 9% ปล่อยคาร์บอนเกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 4% เหลือ 3% ส่วนปล่อยคาร์บอนเกิน 200 กรัม/กม. ปรับลดจาก 13% เหลือ 12% และ 4.รถยนต์กระบะ 4 ประตู (ดับเบิ้ลแค็บ) แบบผสมที่ใช้เชื้อเพลิงและไฟฟ้า รวมถึงปล่อยคาร์บอนไม่เกิน 175 กรัม/กม. ปรับลดจาก 8% เหลือ 6%

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวนี้เพื่อยกระดับให้รถยนต์ได้มาตรฐานยูโร 5 เร็วขึ้น ลดฝุ่น PM2.5 และไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ

ภาพประกอบข่าว