ส่งออกข้าวไทยแพ้อินเดีย
ไทยส่งออกข้าวปี 60 ทะลุ 11.48 ล้านตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ยังแพ้อินเดียส่งออกได้ 12 ล้านตัน ขึ้นแท่นเบอร์ 1 โลก
ไทยส่งออกข้าวปี 60 ทะลุ 11.48 ล้านตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ยังแพ้อินเดียส่งออกได้ 12 ล้านตัน ขึ้นแท่นเบอร์ 1 โลก
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในปี 2560 (ม.ค.-ธ.ค.) มีปริมาณ 11.48 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.84% ซึ่งเป็นปริมาณการส่งออกที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ไทยมีการส่งออกข้าวมา มีมูลค่า 5,106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.78% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 1.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.49%
“การส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะในปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งระบายสต๊อก ทำให้ผู้ส่งออกมีข้าวไปส่งออก และการขยายตลาดข้าว ทั้งการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) การผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ การขยายตลาดข้าวคุณภาพดีและข้าวสีชนิดต่างๆ ทำให้ตลาดต่างประเทศมีความต้องการข้าวไทยเพิ่มขึ้น”นายอดุลย์กล่าว
สำหรับปี 2561 กรมได้ประมาณการส่งออกข้าวไว้ที่ 9.5 ล้านตัน มูลค่า 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากฤดูกาลผลิตปี 2560/61 จะมีปริมาณผลผลิตข้าวลดลง และรัฐบาลไม่มีข้าวในสต๊อกคงเหลือที่เป็นส่วนของข้าวบริโภคเพื่อคน เหลือเพียงข้าวสต๊อกรัฐบาลที่จะระบายเข้าอุตสาหกรรม 2.07 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลต่อตลาดข้าวปกติ แต่จะส่งผลดีต่อราคาข้าวที่จะปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณที่ลดน้อยลง ขณะที่ความต้องการจากต่างประเทศยังคงสูงขึ้น
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวในปี 2560 อินเดียยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกด้วยปริมาณ 12 ล้านตัน ไทยเป็นอันดับ 2 ส่งออกได้ปริมาณ 11.48 ล้านตัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการส่งออกข้าวไทย ส่วนในปี 2561 คาดว่าอินเดียจะส่งออกข้าวได้น้อยลงต่ำกว่าไทย เนื่องจากผลผลิตข้าวอินเดียลดลงจากภัยทางธรรมชาติ อีกทั้งในปี 2561 อินเดียจะมีการเลือกตั้งภายในประเทศ ทำให้อาจจะลดปริมาณการส่งออกข้าวลงมา เพื่อรักษาสต๊อกข้าวในประเทศให้เพียงพอต่อการบริโภค
“ปี 2561 ที่ไทยตั้งเป้าส่งออกข้าว 9.5 ล้านตัน มีความเป็นไปได้ว่าจะส่งออกได้ในปริมาณดังกล่าว และคาดว่าจะเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 แทนอินเดียในปีนี้ เพราะอินเดียจะลดปริมาณการส่งออกลงมา ส่วนปัจจัยบวกที่ทำให้การส่งออกข้าวไทยปีนี้มีทิศทางดีขึ้น คือ ความต้องการนำเข้าข้าวจากประเทศผู้ซื้อทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนปัจจัยลบที่จะกระทบต่อการส่งออกไทย คือค่าเงินบาทแข็งค่า มีความกังวลว่าหากเงินบาทยังคงแข็งค่าจะทำให้ขีดความสามารถแข่งขันข้าวไทยลดลง และราคาข้าวส่งออกห่างจากประเทศคู่แข่งมากขึ้น จากปัจจุบันที่ห่างกันแค่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เท่านั้น”นายชูเกียรติ กล่าว