"พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู" คาร์ดินัลไทยองค์แรกในพิธีแต่งตั้งพระสันตะปาปา
ชวนรู้จัก "พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู" คาร์ดินัลไทยองค์แรกผู้จารึกประวัติศาสตร์ กับบทบาทสำคัญในพิธีแต่งตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่
เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568 ทั่วโลกต่างหันมาจับตามองกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่อย่างใกล้ชิด
ท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญนี้ ชื่อของ "พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู" กลับถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง ในฐานะพระคาร์ดินัลสงฆ์ที่มีอาวุโสสูงสุด (Protopriest) แห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้รับมอบหมายบทบาทสำคัญในการประกอบพิธีรับตำแหน่งของพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ด้วยการกล่าวบทภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์เปิดพิธี ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งโลก
เส้นทางแห่งศรัทธา
พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2472 ที่บ้านวัดนักบุญเปโตร สามพราน จังหวัดนครปฐม ในครอบครัวคาทอลิกที่เปี่ยมด้วยความศรัทธา
ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 8 คนของครอบครัวกิจบุญชู (ชาย 7 หญิง 1)
ท่านได้ใกล้ชิดวัดมาตั้งแต่เด็กโดยมีหน้าที่ช่วยมิสซาสม่ำเสมอ ท่านจึงต้องตื่นนอนแต่เช้าเพื่อไปวัดช่วยมิสซาช่วงเช้า และในวัยเด็กท่านเป็นสมาชิกของคณะพลศีล
ลักษณะทางกายที่สะดุดตามีสองประการคือ ลักยิ้มที่มีความโดดเด่น และ มีขวัญ 3 ขวัญ แต่ลักษณะเด่นที่สำคัญที่สุดคือ ความโดดเด่นทางจรรยา คือ มีความศรัทธาและมีความอ่อนน้อมสุภาพเสมอ
จนกระทั่งคุณครูสุทิน เต่งตระกูล คุณครูคนหนึ่งของท่านในสมัยเด็กถึงกับออกปากกับผู้ปกครองของท่านว่า "น่าจะให้บวชเรียนเป็นพระ เพราะมีนิสัยเหมาะมาก"
ในที่สุดท่านจึงตัดสินใจเดินตามรอยของผู้เป็นลุง (คุณพ่อ เทโอฟิล) เข้าบ้านเณรที่บ้านเณรศรีราชาตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น
เส้นทางการศึกษาของท่านเริ่มต้นจากโรงเรียนวัดนักบุญเปโตร ก่อนย้ายไปศึกษาที่วิทยาลัยดาราสมุทร (สามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา) และโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา
หลังจากนั้น ท่านได้รับโอกาสเดินทางไปยังกรุงโรม เพื่อศึกษาปรัชญาและเทววิทยาที่วิทยาลัยโปรปากันดา (Pontifical Urban College of Propaganda Fide)
จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท และได้รับศีลบวชเป็นพระเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2502 ณ กรุงโรม
ผู้นำแห่งคริสตจักรไทย
หลังกลับสู่มาตุภูมิ พระไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้ปฏิบัติศาสนกิจในหลายพื้นที่ ทั้งลพบุรี สิงห์บุรี และกรุงเทพฯ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2516 สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ทรงแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งพระอัครสังฆราชแห่งกรุงเทพฯ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 ท่านได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลองค์แรกของประเทศไทย โดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 (ตามข้อมูลจากอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ)
การได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ ไม่เพียงแต่สำหรับศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงชุมชนคาทอลิกในทวีปเอเชีย ที่สะท้อนถึงการยอมรับและความสำคัญของศาสนจักรในภูมิภาคนี้
รวมถึงเปิดโอกาสให้เสียงจากเอเชียได้มีส่วนร่วมในศูนย์กลางของศาสนจักร ณ นครรัฐวาติกัน
นอกจากการดูแลคริสตจักรไทย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล ยังทุ่มเทให้กับงานสังคมสงเคราะห์ เช่น ก่อตั้งโรงพยาบาลนักบุญหลุยส์และวิทยาลัยพยาบาลแสงธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้
และส่งเสริมการศึกษาด้านสุขภาพในประเทศไทย ท่านยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งในสมณกระทรวงต่างๆ ของนครรัฐวาติกัน และเคยเป็นประธานสภาบิชอปคาทอลิกแห่งประเทศไทยถึงสองวาระ
หน้าที่สำคัญในวาระประวัติศาสตร์
แม้ปัจจุบันพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู จะมีอายุเกิน 80 ปี และไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ทว่าบทบาทของท่านในพิธีสถาปนาพระสันตะปาปาองค์ใหม่ยังคงมีความสำคัญยิ่ง
ในฐานะหัวหน้าพระคาร์ดินัลสงฆ์ ท่านจะทำหน้าที่กล่าวบทภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่หัวหน้าพระคาร์ดินัลสังฆานุกร (Protodeacon) ทำพิธีสวมปัลลีอุม (Pallium) และก่อนที่หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล (Dean) จะสวมแหวนชาวประมงให้กับพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
หน้าที่นี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติสูงสุดสำหรับบุคคลผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา หากยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่พระศาสนจักรมีต่อพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล ผู้เป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตกในคริสตจักรโรมันคาทอลิก
การเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งพระสันตะปาปาของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ในฐานะพระคาร์ดินัลจากประเทศไทยและทวีปเอเชีย ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ดังนี้
- สะท้อนความเป็นสากล: การปรากฏตัวของท่านเน้นย้ำว่าศาสนจักรคาทอลิกไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในโลกตะวันตก แต่เป็นชุมชนความเชื่อที่แผ่ขยายไปทั่วโลก และให้ความสำคัญกับสมาชิกจากทุกวัฒนธรรมและภูมิภาค
- เสริมสร้างความสัมพันธ์: เป็นการยืนยันถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างสันตะสำนักและชุมชนคาทอลิกในประเทศไทย และเป็นการให้เกียรติต่อศาสนจักรในประเทศไทย
- แบบอย่างแห่งศรัทธา: ท่านเป็นแบบอย่างที่สำคัญสำหรับชาวคาทอลิกในเอเชีย แสดงให้เห็นว่าบุคคลจากภูมิหลังที่หลากหลายสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำระดับสูงในศาสนจักรได้
- ส่งเสริมความเข้าใจ: การมีส่วนร่วมของผู้นำจากทั่วโลกช่วยส่งเสริมความเข้าใจและการเสวนาระหว่างวัฒนธรรมและศาสนาต่างๆ
ความสำคัญของและบทบาทของคณะพระคาร์ดินัล
พิธีแต่งตั้งพระสันตะปาปาไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนผู้นำ แต่เป็นการยืนยันถึงความต่อเนื่องของพันธกิจและการสืบทอดอำนาจทางจิตวิญญาณจากนักบุญเปโตร
พิธีนี้เริ่มต้นหลังจากการสิ้นพระชนม์หรือการสละตำแหน่งของพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้า นำไปสู่การประชุมลับ "คอนเคลฟ" (Conclave)
ซึ่งคณะพระคาร์ดินัลจากทั่วโลกจะมาชุมนุมกัน ณ โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) เพื่อเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ภายใต้ขั้นตอนที่เคร่งครัดและเป็นความลับ
เมื่อได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว จะมีการประกาศ "ฮาเบมุส ปาปัม" (Habemus Papam - เรามีพระสันตะปาปาแล้ว) ตามด้วยพิธีเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ในระหว่างพิธีการเหล่านี้ คณะพระคาร์ดินัล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของพระสันตะปาปาและเป็นกลุ่มนักบวชระดับสูงสุดรองจากพระองค์ จะเข้าร่วมในการสวดภาวนา ถวายความเคารพและความเชื่อฟังต่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของศาสนจักร