พิพิธภัณฑ์ธนชาต

ยามนี้ขับรถไปตามถนนเจอโลโก้ธนาคารธนชาต แต่พอผ่านไปหน้าธนาคารกลายเป็นธนาคารนครหลวงไทย

ก็อย่าตกใจ เพราะแบงก์ธนชาตเขากำลังปรับเปลี่ยนหน้าตาสาขาให้เป็นหนึ่งเดียวกันให้หมดในปลายปีนี้

หลังการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารธนชาตและธนาคารนครหลวงไทยเสร็จ ชื่อของธนาคารนครหลวงไทยก็จะกลายเป็นธนาคารในประวัติศาสตร์การเงินของประเทศไทย เหมือนหลายธนาคารที่กลายเป็นอดีตเพราะเจอพิษต้มยำกุ้ง

แต่ด้วยความที่ธนาคารนครหลวงไทยมีรากฐานที่ยาวนาน และได้รวมเอาธนาคารศรีนคร อดีตอาณาจักรใหญ่ของเจ้าสัว อุเทน เตชะไพบูลย์ หนึ่งในตำนานเจ้าสัวผู้มีบารมีสูงในกลุ่มคนจีนโพ้นทะเลดั้งเดิม ที่เข้ามาตั้งรกรากหากินบนแผ่นดินไทยไว้ด้วย ทำให้ผู้บริหารธนชาต วางแผนทำพิพิธภัณฑ์ธนาคารที่บางปู จ.สมุทรปราการ เพื่อรวบรวมประวัติของธนาคารธนชาต

ว่าแล้วกระบวนการตามล่าหาสมบัติจึงเกิดขึ้น สมบัติของธนาคารนครหลวงไทยนั้นอยู่ครบ ยกเว้นเอกสารที่มีพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีพระบรมราชานุญาตให้ธนาคารแห่งนี้ ตั้งโดยพระบรมราชานุญาตและพระราชทานพระมหาพิชัยมงกุฎเป็นตราประจำธนาคาร

ส่วนธนาคารศรีนครนั้น ไม่ต้องพูดถึง ของเก่าแก่ที่เคยโชว์อยู่ในตู้ที่สำนักงานใหญ่สวนมะลิ ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ดีดเก่า สมุดบัญชี เอกสารและของสะสมของธนาคารอันตรธานหายไปซะเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียงประติมากรรมนกหงังที่ยังบินอยู่ที่อาคารสวนมะลิ ที่เคยเป็นสำนักงานใหญ่ธนาคารศรีนครให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน

ว่ากันว่าของสะสมที่มีค่าเหล่านี้ หายไปตั้งแต่มีการสั่งควบรวมธนาคารศรีนครเข้ากับธนาคารนครหลวงไทย ช่วงนั้นไม่มีใครดูแลของเก่าที่เป็นสมบัติของธนาคาร จึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉะนั้น เมื่อจะตั้งพิพิธภัณฑ์ก็จะต้องตามหาสมบัติเก่าของธนาคารมารวบรวมไว้

ทรัพย์สินที่หนักใจของผู้บริหารแบงก์ธนชาตที่สุด คือ องค์ครุฑที่มีคำว่า ตั้งโดยพระบรมราชานุญาต ที่จะต้องอัญเชิญลงจากสาขา เพราะถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่ธนาคารเริ่มทยอยอัญเชิญลงจากอาคารสาขาเป็นระยะ รวมแล้วมีหลายร้อยองค์

สำหรับองค์ครุฑที่ใหญ่ที่สุดคือ องค์ที่ประทับบนอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารนครหลวงไทย ถนนเพชรบุรี ที่จะมีการทำพิธีใหญ่อัญเชิญลงจากตึกในเร็วๆ นี้ โดยห้ามไม่ให้องค์ครุฑแตะพื้นเสียด้วย ซึ่งครุฑทั้งหมด ธนาคารจะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ที่บางปู

แม้ธนชาตจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นต่างชาติ คือ ธนาคารสโกเทีย จากแคนาดา แต่ผู้บริหารธนาคารทั้ง บันเทิง ตันติวิท ศุภเดช พูนพิพัฒน์ และผู้บริหารจากธนาคารแม่ ก็เห็นความสำคัญและคุณค่าของการเก็บรักษาประวัติศาสตร์รากฐานอันยาวนานของธนาคารไว้

นับว่าเป็นธนาคารต่างชาติรายเดียวที่ทะนุถนอมประวัติและทรัพย์สิน ก่อนจะมาเป็นธนาคารธนชาตในปัจจุบัน ซึ่งในระยะยาวสามารถที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์การเงินการธนาคารของไทยได้อีกด้วย