ไทยเบฟฯซื้อหุ้นใหญ่เสริมสุขกว่า1.5หมื่นล้าน
ไทยเบฟฯ เขี่ยเป๊ปซี่ ซื้อหุ้นใหญ่เสริมสุขกว่า1.5หมื่นล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจโลจิสติสก์ขยายอาณาจักรเครื่องดื่ม
ไทยเบฟฯ เขี่ยเป๊ปซี่ ซื้อหุ้นใหญ่เสริมสุขกว่า1.5หมื่นล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจโลจิสติสก์ขยายอาณาจักรเครื่องดื่ม
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทบยเบฟเวอเรจ ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปราศจากแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก ได้อนุมัติให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก เข้าซื้อกิจการของบริษัทเสริมสุข ผู้ผลิตและกระจายสินค้าเครื่องดื่มรายใหญ่ โดยทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเสริมสุขโดยสมัครใจ เพื่อเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเสริมสุขทั้งหมด 265,900,484 หุ้น หรือ 100% ในราคา58บาทต่อหุ้น รวมทั้งหมดเป็นมูลค่า 15,422,228,072 บาท
ทั้งนี้ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก จะต้องส่งคำเสนอซื้อให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) ภายใน 3 วันทำการ โดยมีระยะเวลาดำเนินการซื้อภายใน 25วันทำการจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเสริมสุข ในปัจจุบันมีบริษัท เอสเอสเอชั่นแนล โลจิสติกส์(เอสเอสเอ็นแอล) ถือหุ้นในสัดส่วน 32% และเป๊ปซี่ โค 44.5% และที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ โดยราคาต่อหุ้น 58 บาท ที่เสนอมาของเป๊ปซี่ฯ นั้น บริษัทถือว่าเป็นราคาที่รับได้ และคุ้มค่าต่อการลงทุนในบริษัทเสริมสุขซึ่งมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ นอกเหนือจากธุรกิจเครือข่ายกระจายสินค้า
“การเข้าซื้อหุ้นในบริษัทเสริมสุขครั้งนี้ เพื่อขยายโอกาสในการทำตลาดเครื่องดื่มรายการต่างๆโดยเฉพาะเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ของบริษัทในเครือ อาทิ น้ำดื่ม โซดา ตราช้าง รวมทั้งเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ของบริษัทโออิชิ กรุ๊ป ซึ่งอยู่ในเครือบริษัทไทยเบฟฯ” นายฐาปน กล่าว
สำหรับบริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2530 และในช่วง 3ปีที่ผ่านมาลงทุนไปกว่า 3,000 ล้านบาท ด้านขนส่งกระจายสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า(ดีซี) ที่ปัจจุบันมี 3 แห่งที่โคราช, ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี โดยบริษัทเสริมสุขจะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในการทำตลาดเครื่องดื่มผ่านร้านค้า-ร้านอาหารประเภทร้านก๋วยเตี๋ยว ทั่วประเทศ และเป็นพันธมิตรในการกระจายสินค้าให้กับเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ส่วนบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งในการกระจายสินค้าเข้าช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด)
ในส่วนของโครงสร้างการบริหารในบริษัทเสริมสุขนับจากนี้ จะยังเป็นไปตามโครงสร้างการบริหารเดิมที่ปัจจุบันมีนายสมชาย บุลสุข ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ด้วยเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มที่สร้างความแข็งแกร่งในตลาดประเทศไทยมานานหลายสิบปี รวมถึงในส่วนของสัญญาการซื้อหัวเชื้อน้ำอัดลมจากเป๊ปซี่ โค นั้นที่จะหมดสัญญาฯเดือนพ.ย.ปี255 ซึ่งเป็นการต่ออายุสัญญาออกไปอีก 7 เดือนจากเดิมที่จะหมดสัญญาฯในเดือนเม.ย.ปีหน้า และไม่เกี่ยวข้องในส่วนของคดีความการฟ้องร้อนก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องระหว่างของผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัทเสริมสุขและเป๊ปซี่ โค
“การที่บริษัทลูกของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ เข้ามาซื้อหุ้นใหญ่ในกิจการบริษัทเสริมสุข ครั้งนี้ ยังถือว่าเป็นการรักษาบริษัทเก่าแก่ของคนไทย ที่มีอายุมานานถึง 58 ปีในปัจจุบัน และยังเป็นบริษัทที่ได้รับพระราชทานตราครุฑ ในประเทศไทยด้วย ซึ่งในส่วนของเอสเอสเอ็นแอลซึ่งมีหุ้นในบริษัทเสริมสุขอีก32%นั้น ยังไม่มีความประสงค์ที่จะขายหุ้นให้กับไทบเบฟฯเช่นกัน รวมถึงการขยายธุรกิจเครื่องดื่มน้ำดำในอนาคต ด้วยมองว่ามีผลตอบแทนกำไรต่ำ" นายฐาปน กล่าวสรุป