เตือนซื้อบ้านเลี่ยงจัดสรรเสี่ยงฟลัดเวย์

22 กุมภาพันธ์ 2555

กรมที่ดินเตือนซื้อบ้านเลี่ยงจัดสรร หวั่นเจอฟลัดเวย์ แนะให้ตรวจสอบก่อนซื้อ ด้านความคืบหน้าศูนย์ข้อมูลที่ดิน มท.1 เล็งเสนอครม. หลังโครงการถูกดองมา 2 ปี

กรมที่ดินเตือนซื้อบ้านเลี่ยงจัดสรร หวั่นเจอฟลัดเวย์ แนะให้ตรวจสอบก่อนซื้อ ด้านความคืบหน้าศูนย์ข้อมูลที่ดิน มท.1 เล็งเสนอครม. หลังโครงการถูกดองมา 2 ปี

นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า การซื้อที่อยู่อาศัยนับจากนี้ผู้บริโภคต้องระวังมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อบ้านในโครงการที่เลี่ยงจัดสรร หรือไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ผู้ซื้อบ้านอาจจะได้บ้านบนที่ดินรับน้ำ หรือฟลัดเวย์ (ทางด่วนน้ำ) ไม่รู้ตัว เพราะถ้าโครงการที่มีการยื่นขอจัดสรร และหากขอยื่นในพื้นที่ที่เป็นฟลัดเวย์ กรมที่ดินจะไม่อนุญาตให้ก่อสร้าง แต่บ้านที่อยู่ในโครงการเลี่ยงจัดสรร อาจนำที่ดินในพื้นที่รับน้ำมาแบ่งแปลงแล้วพัฒนาขาย ซึ่งกรมที่ดินจะตรวจสอบได้ยาก

ผู้ซื้อจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งเรื่องฟลัดเวย์ สีผังเมืองก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่อย่างนั้นอาจต้องรับความเสี่ยงไว้เอง ส่วนบ้านในแนวฟลัดเวย์หรือพื้นที่รับน้ำที่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว ส่วนใหญ่เป็นบ้านเลี่ยงจัดสรร จึงต้องยอมรับสภาพการถูกน้ำท่วมขัง หากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลเองก็พยายามหาแนวทางลดความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่

สำหรับพื้นที่รับน้ำหรือแนวฟลัดเวย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผังเมืองได้กำหนดไว้ชัดเจน ผู้ซื้อที่ดินหรือนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจะต้องทำการศึกษาสีผังเมืองและกฎหมายให้ดี เพื่อให้การลงทุนได้ประโยชน์สูงสุด หรือบางแปลงอาจไม่สามารถลงทุนได้เลย ซึ่งปัจจุบันกรมที่ดินมีนโยบายให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ผู้ซื้อที่ดินทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวสามารถก่อสร้างโครงการประเภทใดได้บ้าง และห้ามก่อสร้างอะไร ก่อนทำการรับโอนที่ดิน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

ทั้งนี้ การกำหนดพื้นที่รับน้ำของรัฐบาล จะต้องมีความชัดเจนทั้งเรื่องพื้นที่ และการจ่ายชดเชย โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมที่ดินเป็นเรื่องของการกำหนดราคาประเมิน ซึ่งกรมที่ดินยังคงยืนราคาประเมินที่ดินที่เตรียมจะประกาศใช้ในกลางปีนี้ โดยจะไม่มีการปรับลดราคาประเมินลงแต่อย่างใด แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่รับน้ำ ทั้งพื้นที่เดิมและพื้นที่ที่รัฐบาลเตรียมจะกำหนดให้เป็นพื้นที่รับน้ำใหม่ เช่น ที่ลุ่มภาคกลาง เพราะประชาชนทั่วไปและรับรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นพื้นที่รับน้ำ หากปีใดน้ำไม่ท่วมพื้นที่เหล่านี้ก็ทำการเกษตรได้และให้ผลิตดี แต่หากปีใดน้ำท่วมก็จะได้รับการชดเชยจากภาครัฐไปตามเกณฑ์ที่มีการกำหนด ด้านความคืบหน้าเรื่องศูนย์ข้อมูลที่ดินของกรมที่ดิน ที่มีแผนจะพัฒนาภายใต้เงินงบประมาณ 4,500 ล้านบาท ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ มท.1 แล้ว และเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติต่อไป หลังจากที่เสียโอกาสไปนานถึง 2 ปี ส่วนเงินลงทุนจะมาจาก 3 แนวทางในช่วงรัฐบาลชุดที่แล้วที่ไม่ได้รับความเห็นชอบตั้งแต่ระดับกระทรวงฯ จึงไม่มีการผลักดันให้เกิดการพิจารณาในที่ประชุมครม.

ส่วนเงินลงทุนจะมีด้วยกัน 3 แนวทาง ได้แก่ การกู้เงินจากต่างประเทศผ่านรัฐบาล หรือ จี ทู จี หรือการใช้งบประมาณของรัฐบาล หรือการกู้เงินจากแหล่งอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในปีงบประมาณที่ผ่านมา สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณนี้ คาดว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ประมาณ 56 หมื่นล้านบาท

 

Thailand Web Stat