แฟรนไชส์ไอติมโบราณ ลุงชม อร่อยสบายกระเป๋า

28 เมษายน 2555

โดย...สิทธินี ห่วงนาค

โดย...สิทธินี ห่วงนาค

ใครได้ชิมไอติมโบราณตำรับ ลุงชม อาจต้องบอกว่าไอศกรีมฝรั่งถอยไป เพราะรสชาติเรียกว่าไม่แพ้ใคร แถมทิ้งห่างด้วยเรื่องราคา เพราะหากเทียบราคาต่อถ้วยต่อชิ้น ไอศกรีมฝรั่ง 1 ถ้วย สามารถซื้อไอติมโบราณของลุงชมได้เกือบ 10 ชิ้น และด้วยทั้งอร่อยและถูกอย่างนี้นี่เอง ทำให้ ลุงชม ไอติมโบราณ กลายเป็นไอติมสไตล์ไทยที่ขายดี เพราะถูกใจตั้งแต่คนเดินถนนถึงเดินห้าง

ลุงชม หรือ อรรถพันธ์ ชาเทพ ปัจจุบันอายุอานามประมาณ 62 ปี ชื่อนี้ได้กลายเป็นโลโก้ติดตัวมานานนับ 10 ปี นับตั้งแต่เริ่มหันมาทำธุรกิจขายไอติมโบราณ

ลุมชม บอกว่า จุดเริ่มต้นของลุงชม ไอติมโบราณ เริ่มจากปี 2545 จ.เชียงใหม่ จัดงาน “กาดมั่ว 4 ชาติ” คือ ไทย ลาว พม่า และจีน ก็ปรากฏว่าอาจารย์ที่สนิทท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดงานมาชวนไปออกร้าน แต่ให้คิดสินค้าที่เข้ากับคอนเซปต์ของงาน จึงนึกถึงไอติมโบราณที่พ่อและแม่เคยทำขาย และส่วนตัวก็ชอบกินมาก ก็ไปวิ่งหาโรงงานผลิตให้ตามสูตร

ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างไม่น่าเชื่อ ก็เลยแวบขึ้นมาในสมองว่า ไอติมนี่จะเป็นแสงสว่างของครอบครัวที่จะใช้ทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพ จากนั้นก็เริ่มเปิดขายเป็นร้านเล็กๆ ที่ถนนท่าแพ

ไอติมโบราณนี้จุดสำคัญคือ ความสดของวัตถุดิบ คือ กะทิ ลุงชมจะใช้วิธีซื้อมะพร้าวเป็นลูกมาเฉาะมาคั้นเอง ไม่ซื้อที่คั้นสำเร็จ เพราะจะบูดเน่าง่าย บางครั้งมีกลิ่นหืน เมื่อเราทำเองจะได้กะทิสด หอม และมัน ส่วนน้ำตาลใช้น้ำตาลที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้าทั่วไป เพราะน้ำตาลทรายของไทยดีที่สุดในโลก จากนั้นก็ผสมด้วยสูตรของครอบครัว ไอติมโบราณที่ได้จึงหอม หวานไม่มาก ที่สำคัญปัจจุบันลุงชมมีโรงงานผลิตของตัวเองที่ จ.ลำปาง และโรงงานกระจายสินค้าอยู่ที่ กทม.แล้ว

สำหรับไอติมลุงชมจะมีหลายรส โดยมีรสชาติหลัก คือ กะทิ ใบเตย ทุเรียน เผือก ช็อกโกแลต ถั่วดำ กาแฟ ชานม ชาเขียว ซ่าหริ่ม สตรอเบอร์รี ส้ม ซึ่งบางรสก็มาจากเสียงเรียกร้องของลูกค้า

ลุงชม เล่าว่า หลังจากเปิดขายที่เชียงใหม่และได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ต่อมาเมื่อมีการจัดงานออกร้านค้าในจังหวัดต่างๆ หรือใน กทม. ก็จะมาออกร้าน ปรากฏว่าสามารถขายใน กทม.ได้ถึงวันละ 4,000 แท่งใหญ่ (1 แท่งใหญ่นำไปตัดขายได้ 3 แท่งเล็ก) เรียกว่าขายได้วันละเป็นหมื่นแท่งกันทีเดียว สนนราคาแท่งละ 10 บาท

“ที่ขายง่ายเพราะแท่งละ 10 บาท ลูกค้าซื้อทานคนละไม้สองไม้ แม้ตอนนี้ราคามะพร้าวจะแพงมาก ลุงก็จะขายเท่านี้ เราเพียงแต่ว่าจะขอตัดชิ้นเล็กลงจากเดิมเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียความรู้สึก”

เมื่อกระแสตอบรับดีขนาดนี้ ไอติมของลุงชมก็เข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ตามกระแสนิยม ซึ่งก็ทำระบบแฟรนไชส์มา 56 ปีแล้ว สนนเงินลงทุนปัจจุบันอยู่ที่ 3.5 หมื่นบาท ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีวิต

ลูกค้าที่ซื้อระบบแฟรนไชส์จะได้รับตู้คีออสก์ป้ายไฟฟ้า ตู้แช่ไอติมขนาด 9 คิว และไอติม 300 แท่ง ตัดได้ 900 ไม้ หลังจากนั้นสมาชิกจะสามารถซื้อได้ราคาแท่งละ 17 บาท 1 แท่งจะตัดขายได้ 3 ชิ้น ราคาชิ้นและ 10 บาท ซื้อ 300 ก้อนขึ้นไปจัดส่งฟรีทั่วประเทศ แต่ถ้าไม่ใช่สมาชิกแฟรนไชส์จะขายในราคา 22 บาทต่อแท่ง

ทุกวันนี้ลุงชมมีแฟรนไชส์กว่า 100 แห่งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยยอดขายวัดกันที่ทำเล หากเป็นหน้ามหาวิทยาลัย โรงเรียน ตลาด จะขายดีมาก บางราย 2 เดือนคุ้มทุนแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์จะมีเจ้าหน้าที่คอยเข้าไปให้คำแนะนำในการจัดร้านด้วย อาทิ เทคนิคการจัดวางไอติม สร้างสีสันให้ดูน่าซื้อ น่าชิม ตลอดจนมีการพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ในการขาย นำไอติมมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าสารพัดสี ใส่ถ้วยโฟม ถ้วยกระดาษ ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสง่ายขึ้น

“เป็นไอเดียลูกค้า เขาอยากทานหลายรส ผสมนั่นนี่เข้าไป เราก็เอามาปรับให้สอดคล้องความต้องการของลูกค้า เช่น เอากะทิมาตัดครึ่งชิ้น ผสมรสเผือก รสซ่าหริ่ม เป็นต้น ดูแล้วก็สวย และก็อร่อยเพิ่มขึ้นด้วย”

สนใจลงทุนสอบถามได้ที่โทร. 08-6657-5296

Thailand Web Stat