มอนสเตอร์บุกขยายตลาดวัยรุ่น
"มอนสเตอร์"หูฟังพรีเมียมระดับโลก ผนึกแบรนด์แฟชัน-เกมออนไลน์ออกรุ่นพิเศษ ขยายกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
"มอนสเตอร์"หูฟังพรีเมียมระดับโลก ผนึกแบรนด์แฟชัน-เกมออนไลน์ออกรุ่นพิเศษ ขยายกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
นายปวร เล็กคง ผู้จัดการฝ่ายขายพัฒนาธุรกิจ บริษัทไดนามิค อินเตอร์เนชั่นแนล โปรดักส์ ผู้รับสิทธิ์การทำตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ต่อขยายเสียงแบรนด์“มอนสเตอร์”(Monster)จากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าบริษัทรับนโยบายการทำตลาดจากบริษัทแม่ เพื่อขยายฐานการทำตลาดในประเทศไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ในระดับกลาง และวัยรุ่นมากขึ้น หลังจากแบรนด์ดังกล่าวอยู่ในไทยมานานกว่า 15ปี
สำหรับปีนี้ บริษัทเตรียมงบราว 20 ล้านบาท ทำตลาดสินค้าหูฟัง 4 รุ่นใหม่ คือ อินสไปเรชัน(Inspiration), ดีเซล มอนสเตอร์ เวคเตอร์(Diesel Monster Vektr), ไดมอนเทียร์(Daimond Tear) และบีท มิกซ์(Beat Mix) ซึ่งจะทยอยทำตลาดพร้อมกันทั่วโลก ในช่วง1-2 เดือนนี้ โดยเฉพาะรุ่นดีเซลฯ ที่ร่วมพัฒนาสินค้ากับนักออกแบบดีเซล วางราคาสินค้าราว1.1 หมื่นบาท คาดเปิดตัวในไทยเดือนมิ.ย.นี้
นอกจากนี้บริษัทแม่ ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ อีเอ เกมส์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์ออนไลน์ ผลิตสินค้าหูฟังรุ่นพิเศษเพื่อรองรับตลาดผู้เล่นเกมโดยเฉพาะ จากปัจจุบันตลาดนี้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์หูฟังที่มีคุณภาพสูงเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ คาดพร้อมเปิดตัวและทำตลาดในไทย และทั่วโลกราวปลายปี55นี้ รวมถึงในช่วงที่ผ่านมาแบรนด์มอนสเตอร์ยังร่วมกับโทรศัพท์โนเกีย พัฒนาสินค้าหูฟังรุ่น เพียวริตี(Putity)ด้วย
จากปัจจุบันหูฟังแบรนด์มอนสเตอร์ วางตำแหน่งสินค้าระดับบน(พรีเมียม) จับกลุ่มเป้าหมายหลักอายุระหว่าง18-35ปี โดยสินค้าวางราคาเฉลี่ยที่ 1-1.8 หมื่นบาท ซึ่งการขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ในระดับกลางครั้งนี้ถือเป็นทิศทางเดียวกันทั่วโลกของแบรนด์มอนสเตอร์ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่อายุ 17-20 ปี จากการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ที่มีราคาเฉลี่ย2,500-6,000 บาท
เนื่องจากแนวโน้มตลาดหูฟังทั่วโลก และในไทยมีอัตราการเติบโตดีในช่วงที่ผ่านมา โดยตลาดหูฟังมูลค่ารวมทั่วโลกคาดอยู่ที่ประมาณ1,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งแบรนด์มอนสเตอร์ ครองส่วนแบ่งตลาดหูฟังระดับบนกว่า 80% ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในไทยที่แบรนด์มอนสเตอร์ มีอัตราเติบโตโต่อเนื่องในช่วง2ปีก่อนสูงถึง 100%-117%
สำหรับการเติบโตของสินค้าดังกล่าว สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดอุปกรณ์สื่อสารและไอทีในไทย โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟน หรือ แก็ดเจ็ทต่างๆ อาทิ แท็บเล็ต, ไอแพด และไอโฟน เป็นต้น และคาดว่าสินค้าในตลาดนี้จะยังมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องไปอีก2ปีนับจากนี้ และเข้าสู่ภาวะตลาดเติบโตแบบอิ่มตัว โดยปัจจุบันแบรนด์มอนสเตอร์ ถือว่ามียอดขายอันดับ1ในตลาดอาเซียน และติด1ใน3ของตลาดโลก
ขณะที่ปัจจุบันบริษัท ทำตลาดใน 4 กลุ่มสินค้าหลัก คือ 1.กลุ่มเพาเวอร์ หรืออุปกรณ์ราวไฟ, 2.กลุ่มเอชดีเอ็มไอ สายเคเบิลเสียบต่อสัญญาณโทรทัศน์, 3.กลุ่มอุปกรณ์เสริมแอปเปิล มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% และ4.กลุ่มหูฟัง มอนสเตอร์ มีสัดส่วนรายได้ราว 70% โดยบริษัททำตลาดผ่านช่องทางขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายสินค้า(ดีลเลอร์)อาทิ ไอสตูดิโอ, มั่นคง แก๊ดเจ็ต, ดอท ไลฟ์, บานาน่า สตั๊ฟ, ซาวนด์ แม็ตเทอร์ เป็นต้น