ไฮเออร์ลุยปั้นแบรนด์เทียบญี่ปุ่น

ไฮเออร์เครื่องใช้ไฟฟ้าแดนมังกร อัดงบ 350  ล้านบาท เพิ่มไลน์สินค้า ลุยปั้นแบรนด์เทียบชั้นแบรนด์ญี่ปุ่น

นายอู๋ หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทไฮเออร์ อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนในปีนี้ บริษัทเตรียมใช้งบประมาณ จำนวน 350 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนด้านเครื่องจักร 250 ล้านบาท และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อครบวงจร 100 ล้านบาท ในโอกาสที่ไฮเออร์ ทำตลาดในประเทศไทยครบรอบ 10 ปี   

ทั้งนี้แผนขยายการลงทุน บริษัทเตรียมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มภาพและเสียง เช่น โทรทัศน์ ออกสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้ เพื่อเพิ่มกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมมีจำหน่ายเพียง 3 ประเภท ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และตู้แช่ โดยล่าสุดได้เปิดตัวตู้เย็นไซส์บายไซส์ ขนาด 17.7 คิว และ 19 คิว  ชูจุดเด่นฟังก์ชั่นการใช้งานและการออกแบบที่ทันสมัย รองรับการใช้งานของคนรุ่นใหม่

"บริษัทชูจุดเด่นเรื่องดีไซน์ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมที่แตกต่างจากคู่แข่งมานำเสนอ ทำให้บริษัทเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น แบรนด์ไฮเออร์ติดอันดับ 1 ใน 3 ของแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและยอดการจำหน่ายสูง และถือเป็นแบรนด์ที่ยอดขายตู้เย็นเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกัน 4 ปี ซึ่งบริษัทกล้ารับประกันการใช้งานนาน 3 ปี"นายอู๋ กล่าว

สำหรับแผนการตลาดในประเทศไทย บริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ 3 ดารานักแสดง ได้แก่  น.ส.อัฐมา ชีวนิชพันธ์ พรีเซ็นเตอร์ตู้เย็น ภายใต้แนวคิด แอร์แอนด์คูลซีรี่ส์ น.ส. ศุภักษร ไชยมงคล พรีเซ็นเตอร์เครื่องซักผ้า ภายใต้แนวคิด  แคร์แอนด์คลีน และ น.ส.โชติกา วงศ์วาสนา พรีเซ็นเตอร์เครื่องปรับอากาศ ภายใต้แนวคิด แคร์แอนด์โคซี่ เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,630 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท

นายอู๋ กล่าวว่า การติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดญี่ปุ่น จะช่วยให้แบรนด์ไฮเออร์เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก โดยในประเทศไทยตั้งเป้าเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มียอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดติดอันดับ 1 ใน 3  ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมั่นว่าเทคโนโลยีและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของบริษัทจะมีผลตอบรับที่ดี วัดได้จากยอดขา   ย ระหว่างเดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายได้กว่า 800 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากตู้เย็น 350 บาท ยอดขายเครื่องปรับอากาศ 300 ล้านบาท และยอดขายจากเครื่องซักผ้า 120 ล้านบาท  เติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน