ปั้นสำเพ็ง2รับจีน

20 มิถุนายน 2555

เจ.เอส.พี. กรุ๊ป ผุดไชนา เซ็นเตอร์ รับกลุ่มพ่อค้าจีน สำเพ็ง พาหุรัด โบ๊เบ๊ หวังใช้เป็นฐานขยายตลาดสู่อาเซียนรับเปิดอีเอซี

เจ.เอส.พี. กรุ๊ป ผุดไชนา เซ็นเตอร์ รับกลุ่มพ่อค้าจีน สำเพ็ง พาหุรัด โบ๊เบ๊ หวังใช้เป็นฐานขยายตลาดสู่อาเซียนรับเปิดอีเอซี

นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี. กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการไชนา เซ็นเตอร์ หรือสำเพ็ง 2 เพื่อให้เป็นศูนย์ค้า-ปลีก และค้าส่งรองรับกลุ่มผู้ค้าที่อยู่ในสำเพ็ง พาหุรัด เวิ้ง นาครเขษม โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ ที่ต้องการขยายธุรกิจ เนื่องจากในพื้นที่เดิมมีความคับแคบ การขนส่งไม่สะดวกทั้งผู้ค้าและผู้มาใช้บริการจึงไม่สามารถขยายกิจการได้อีก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวจีนที่นำเข้าสินค้าจีนมาขายในเมืองไทย ก็ต้องการมีหน้าร้านขายเองด้วยเช่นกัน

ด้านนายธีระชาติ มโนธรรมรักษา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าของบริษัทมีทั้งที่เป็นชาวจีน หรือที่เป็นผู้ค้าในย่านสำเพ็ง พาหุรัด โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ นอกจากต้องการมีหน้าร้านที่ขยายตลาดในการขยายตลาดในประเทศเพิ่มแล้ว ยังเห็นว่า โครงการไชนา เซ็นเตอร์ยังเป็นศูนย์ค้าปลีก ค้าส่งที่สามารถขยายตลาดไปยังประเทศในอาเซียนหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้

ขณะที่นายทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการไชนา เซ็นเตอร์ มีมูลค่า 3,700 ล้านบาท อยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสาทร ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพระราม 2 ถนนราชพฤกษ์ มีเนื้อที่ 62 ไร่ ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ขนาด 17-34 ตร.ว. จำนวน 470 ยูนิต ราคาขายตั้งแต่ 4.99-16.5 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 250 ยูนิต หรือกว่า 50% หลังจากเริ่มทำตลาดอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ และหากโครงการสำเพ็ง 2 ประสบความสำเร็จ บริษัทได้เตรียมที่ดินในฝั่งตรงข้ามอีกจำนวน 64 ไร่ เพื่อขยายโครงการในรูปแบบเดียวกันต่อเนื่อง

นอกจากโครงการดังกล่าวแล้วในระยะ 3 ปี บริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าที่บริเวณพุทธมณฑลสาย 6 เนื้อที่ 120 ไร่ พัฒนาเป็นคลังสินค้า เนื้อที่ตั้งแต่ 150 ตร.ม.ขึ้นไปจำนวน 300 แปลง ขายในราคา 6.9 ล้านบาท หรือให้เช่า โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะลงทุนโครงการ “เมกะคอมเพล็กซ์ ในทอน” ที่ภูเก็ต เนื้อที่ 70 ไร่ ติดชายทะเลหาดในทอน เป็นพื้นที่พาณิชยกรรม เอนเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงโรงแรมระดับ 3-4 ดาว มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนรวมกันประมาณ 5,000 ล้านบาท และจะมียอดขายใน 3 ปีเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ 5,000 ล้านบาท

ด้านนายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 11 โครงการ โดยใน 5 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายรวมแล้วกว่า 1,200 ล้านบาท ถือว่าเป็นยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2554 ทั้งปีที่มียอดขาย 792 ล้านบาท

Thailand Web Stat