ซื้อเก็งกำไรหุ้นITD

07 กันยายน 2555

ผลจากการที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ได้รัฐบาลเป็นพันธมิตรโครงการทวาย

โดย...เจียรนัย อุตะ มะ&<2288;

ผลจากการที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ได้รัฐบาลเป็นพันธมิตรโครงการทวาย และชนะการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อรังสิต สัญญาที่ 2 ทำให้นักวิเคราะห์แนะนำซื้อหุ้นเก็งกำไรหุ้นนี้

สมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวาย ดีเวล๊อปเมนต์ (DDC) กล่าววว่า จากการประชุมร่วมคณะทำงานที่มีคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลัง ทาง ITD ยินดีจะให้รัฐบาลเข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการนี้ แต่รัฐบาลจะต้องจัดสรรว่าจะให้ใครถือหุ้นบ้าง จะเป็นรัฐบาลพม่าและญี่ปุ่นเท่าไร ส่วนรัฐบาลไทย จะใช้กลไกหน่วยงานของรัฐบาลเข้าถือหุ้น เช่น กองทุนวายุภักษ์ หรือรัฐวิสาหกิจ

โครงการทวาย มูลค่าลงทุนถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาท) ช่วงแรกใช้เงินลงทุน 2.4-2.5 แสนล้านบาท : โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในประเทศพม่า ทาง ITD ได้รับสิทธิเป็นผู้พัฒนาโครงการภายใต้ DDC เพื่อพัฒนาโครงการบนพื้นที่ 250 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2 แสนไร่ ใช้เงินลงทุนทั้งโครงการมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาท)

ซื้อเก็งกำไรหุ้นITD

 

แผนพัฒนาโครงการระยะแรกจะใช้เงินลงทุน 2.4-2.5 แสนล้านบาท ในการดำเนินงานซึ่งประกอบด้วยโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โครงการนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบคมนาคมขนส่ง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทยกำหนดจะเดินทางไปเยือนพม่าระหว่างวันที่ 19-21 ก.ย.นี้ เพื่อดูความคืบหน้าโครงการทวาย รวมทั้งหารือกับรัฐบาลพม่า โดยต่อยอดความร่วมมือภายหลังจากที่รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือในการยกระดับโครงการทวายเป็นรูปแบบรัฐต่อรัฐ

สุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 4 บาท การที่โครงการทวายได้ยกระดับขึ้นมาเป็นรัฐต่อรัฐและมีความคืบหน้า โดยเฉพาะมีรัฐบาลเข้ามาร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้ไม่เป็นภาระต่อ ITD มากนัก และ ITD จะยังได้งานก่อสร้างในโครงการต่างๆ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาท) ในระยะเวลา 16 ปีข้างหน้า

ดังนั้น จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ราคาต่อมูลค่าบัญชี (P/BV) โดยมีประเด็นเสี่ยง คือ ภาระหนี้ที่สูงและการเพิ่มทุนโมเดลโครงการทวาย จะลงทุนเฟสแรกตั้ง 6 บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนในโครงการต่างๆ DDC จะใช้วิธีจัดตั้งบริษัทลูกจำนวน 18 บริษัท เพื่อลงทุนในธุรกิจหลัก โดยระยะแรกจะมี 6 โครงการ คือ

โครงการแรก โครงการท่าเรือน้ำลึกและถนน จะมีผู้ถือหุ้น 4-5 ราย ใช้เงินลงทุนประมาณ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 10.5 แสนล้านบาท)

โครงการที่สอง บริษัทโรงไฟฟ้าถ่านหิน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 7,000-8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.1-2.4 แสนล้านบาท) จะมีผู้ถือหุ้น 3 ราย

โครงการที่สาม โครงการโรงถลุงเหล็กและเหล็กรีดร้อน ในพื้นที่ 13,750 ไร่

โครงการที่สี่ โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในพื้นที่ 1.72 หมื่นไร่

โครงการที่ห้า โครงการโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซ พื้นที่ 8,700 ไร่

และโครงการที่หก โครงการก่อสร้างโรงปุ๋ย ในพื้นที่ 2,400 ไร่

ซึ่งแต่ละโครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาติต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งจีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น โดย DDC อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดและเงื่อนไขการลงทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปการร่วมทุนของทุกบริษัทในปี 2555

ด้าน บล.เกียรตินาคิน คาดว่าการสนับสนุนของภาครัฐทำให้โครงการทวายมีความชัดเจนมากขึ้น ช่วยลดแรงกดดันด้านสภาพคล่องและภาระเงินทุน แต่ต้องติดตามความคืบหน้าและความชัดเจนอย่างต่อเนื่อง จากแผนของภาครัฐว่าจะดำเนินการในทิศทางใด

ล่าสุด ITD ชนะประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 2 (งานโยธาของทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 21 กิโลเมตร) ที่เสนอราคาต่ำสุด 2.45 หมื่นล้านบาท หลังจากนี้จะตรวจสอบเอกสารภายใน 1 สัปดาห์ และเสนอต่อองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจกา) เพื่อพิจารณาต่อรองราคา เพราะยังสูงกว่าราคากลางที่ 1.9 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาปรับกรอบวงเงินเหมือนกับที่ดำเนินการกับสัญญาที่ 1

นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน คาดว่าจะทำให้งานในมือของ ITD เพิ่มขึ้นเป็น 1.28 แสนล้านบาท จากเดิม 1.04 แสนล้านบาท แต่ต้องรอความชัดเจนของ ร.ฟ.ท. รวมถึงการต่อรองราคาที่อาจลดลงจากราคาเสนอที่ 2.4 หมื่นล้านบาท ที่สูงกว่าราคากลางของกรอบวงเงินใหม่ โดยคาดว่าการเซ็นสัญญาจะเกิดขึ้นอย่างเร็วปลายปีนี้

บล.เกียรตินาคิน แนะนำเก็งกำไรหุ้นนี้ เพราะปัจจัยบวกจากการได้งานเพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านบาท รวมถึงความกังวลการหาเงินลงทุนโครงการทวายลดลงจากการสนับสนุนของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ผลประกอบการมีผลกระทบจากการตั้งสำรองหนี้ที่ยังทำได้ ITD มีผลขาดทุน 259 ล้านบาท ในครึ่งแรกปีนี้ จึงให้ราคาเหมาะสม 4 บาท (อ้างอิงราคาตามมูลค่าบัญชี 1.8 เท่า) และมูลค่าที่เหมาะสมหลังเพิ่มทุน 3 บาท

นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ให้ความเห็นว่า การคว้างานรถไฟสายสีแดงถือเป็นข่าวดีสำหรับ ITD เนื่องจากจะช่วยให้งานในมือของ ITD เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าต้องใช้เวลาสำหรับการลงนามในสัญญาก่อสร้าง เนื่องจาก ร.ฟ.ท.น่าจะต้องเจรจาขอลดราคาลงมาก่อน หลังราคาที่ประมูลได้ยังสูงกว่าราคาอ้างอิงที่ ครม.อนุมัติ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วในสัญญาที่ 1

ส่วนสัญญาที่ 3 ITD ยังคงเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 ราย (อีกรายคือ บริษัท ช.การช่าง หรือ CK) ที่จะสามารถรับงานในโครงการนี้ได้อีก และอยู่ในประมาณการอยู่แล้วจึงยังคงประมาณการผลประกอบการปี 2555-2557 ต่อไป แต่ปรับมูลค่าที่เหมาะสมขึ้น จากสัดส่วนราคา P/BV 1.8 เท่า เป็น 2 เท่า และปรับมูลค่าเหมาะสมไปเป็นปีหน้า ส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 3.8 บาท (P/BV 2 เท่า ปี 2556) จากเดิม 3.3 บาท และยังแนะนำให้ “ถือ”

 

Thailand Web Stat