ภาษีจากรางวัลประกวด แข่งขัน ชิงโชค

12 ตุลาคม 2555

ท่านผู้อ่านคงจะพบเห็นรายการประกวด แข่งขัน ชิงโชค ทางสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ การจัดให้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นหรือส่งเสริมให้มีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการเป็นส่วนใหญ่ คงไม่มีใครใจดีแจกฟรี รางวัลที่แจกให้อาจเป็นเงินสด บ้าน รถยนต์ ทรัพย์สินอื่น พาไปเที่ยวฟรี หรือบริการอื่น ผู้จัดมักระบุให้ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ออกภาษีและค่าธรรมเนียม แต่ก็มีผู้จัดบางรายใจดีออกภาษีให้ผู้ถูกรางวัล หากท่านโชคดีได้รับรางวัล อย่าดีใจจนลืมหน้าที่ทางภาษีก็แล้วกัน

ท่านผู้อ่านคงจะพบเห็นรายการประกวด แข่งขัน ชิงโชค ทางสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ การจัดให้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นหรือส่งเสริมให้มีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการเป็นส่วนใหญ่ คงไม่มีใครใจดีแจกฟรี รางวัลที่แจกให้อาจเป็นเงินสด บ้าน รถยนต์ ทรัพย์สินอื่น พาไปเที่ยวฟรี หรือบริการอื่น ผู้จัดมักระบุให้ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ออกภาษีและค่าธรรมเนียม แต่ก็มีผู้จัดบางรายใจดีออกภาษีให้ผู้ถูกรางวัล หากท่านโชคดีได้รับรางวัล อย่าดีใจจนลืมหน้าที่ทางภาษีก็แล้วกัน

ช่วงนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่แจกรางวัลเป็นทองคำทุกวัน มูลค่าทองคำ 1 ล้านบาท และผู้แจกรางวัลใจดีออกภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้อีกด้วย ผู้โชคดีบางท่านเข้าใจคลาดเคลื่อนคิดว่าผู้แจกรางวัลได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว จึงไม่นำรางวัลที่ได้รับไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผลสุดท้ายก็ต้องเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเสีย กล่าวคือ เสียค่าปรับและเงินเพิ่มนอกเหนือจากภาษี

ภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ เป็นเพียงภาษีส่วนหนึ่งที่จัดเก็บขณะที่ได้รับเงินได้ เพื่อบรรเทาภาระภาษีที่อาจต้องชำระเป็นเงินก้อนโตในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ครึ่งปีหรือประจำปีภาษี

รางวัลเงินสด สิ่งของ หรือบริการที่ผู้โชคดีได้รับ เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้โชคดีมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้แน่ๆ ภาษีที่เสียเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าของรางวัลที่ได้รับ แต่จะมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผู้โชคดีไม่นำมูลค่ารางวัลไปเสียภาษีให้ถูกต้อง รางวัลที่ได้รับก็ใช้ไปหมดแล้ว ทีนี้ได้ปวดหัวเป็นแน่แท้

ผู้โชคดีที่เป็นบุคคลธรรมดา (มิใช่พนักงานหรือลูกจ้างของผู้แจกรางวัล) หากได้รับรางวัลเป็นเงินสด ผู้แจกรางวัลที่มิใช่หน่วยงานรัฐต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายอัตราร้อยละ 5 ของจำนวนเงินสด กรณีรางวัลเป็นสิ่งของหรือบริการ ผู้แจกรางวัลต้องตีราคามูลค่าสินค้าหรือบริการในวันที่แจกรางวัลเพื่อหักภาษี ณ ที่จ่าย และถ้าหากผู้แจกรางวัลเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้แจกรางวัลมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 ของมูลค่าสินค้าหรือบริการอีกด้วย

ผู้โชคดีที่เป็นบุคคลธรรมดาต้องนำรางวัลเงินสด มูลค่าสิ่งของหรือบริการที่ได้รับ (รวมทั้งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ผู้แจกรางวัลออกให้ ซึ่งถือเป็นเงินได้พึงประเมิน) ไปยื่นรวมคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจเสียภาษีเพิ่มเติม หรือมีสิทธิขอคืนภาษีในกรณีที่ภาษีต้องชำระน้อยกว่าภาษีที่ถูกหักไว้

ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลในปี 2555 ต้องนำรางวัลที่ได้รับไปยื่นเสียภาษีด้วยแบบ ภ.ง.ด.90 เช่น ได้รับรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายอัตราร้อยละ 5 จำนวน 5 หมื่นบาท ได้รับรางวัลหลังหักภาษี 9.5 หมื่นบาท ผู้โชคดีต้องนำรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท ไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กำหนดเวลายื่นแบบตั้งแต่เดือน ม.ค.มี.ค. 2556

ทั้งนี้ สามารถนำภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายมาหักออกจากภาษีต้องชำระในการยื่นแบบเสียภาษีได้ กรณีผู้แจกรางวัลออกภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้ตลอดไป คิดเป็นจำนวน 52,631.57 บาท (5/(1005)x1,000,000 = 52,631.57) โดยที่ผู้โชคดีได้รับรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาทเต็มทั้งจำนวน ผู้โชคดีได้รับรางวัลต้องนำรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท และภาษีที่ผู้แจกรางวัลออกให้ 52,631.57 บาท รวมทั้งสิ้น 1,052,631.57 บาท ไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

การหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของรางวัลที่ได้รับ กฎหมายให้หักค่าใช้จ่ายจริงเท่านั้น สำหรับการหักค่าลดหย่อนก็สามารถนำมาหักได้ตามสิทธิของผู้โชคดี

หากท่านเป็นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากการประกวด แข่งขัน ชิงโชค อย่าลืมนำมูลค่ารางวัล รวมทั้งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ผู้แจกรางวัลออกให้ มายื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้องก็แล้วกัน อ้างว่าไม่ทราบก็คงไม่มีประโยชน์อะไร หากสงสัยหรือไม่เข้าใจ สอบถามได้ที่หน่วยงานสรรพากรทุกแห่ง หรือเข้าไปศึกษาได้ที่ www.rd.go.th สวัสดีครับ

Thailand Web Stat