posttoday

โค้กเปิดศึกตู้แช่ย้ำแชมป์

25 ตุลาคม 2555

โค้กบุกเปิดศึกหน้าตู้แช่ดันลูกค้าคนไทย “โหวตโค้ก” ป้องแชร์ 54% ครองแชมป์ตลาดน้ำอัดลม 3.8 หมื่นล้านบาท

โค้กบุกเปิดศึกหน้าตู้แช่ดันลูกค้าคนไทย “โหวตโค้ก” ป้องแชร์ 54% ครองแชมป์ตลาดน้ำอัดลม 3.8 หมื่นล้านบาท

โค้กเปิดศึกตู้แช่ย้ำแชมป์ ภาพประกอบข่าวจากแฟ้มภาพ

นายธิติ ตวงสิทธิตานนท์ ผู้จัดการการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์โคคา-โคลา บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) เจ้าของและผู้ทำตลาดเครื่องดื่ม โค้ก แฟนต้า สไปร์ท ฯลฯ เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดเครื่องดื่มโค้กในไตรมาส 4 นี้ จะใช้งบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท จากงบทั้งปี 600 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่กระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปีนี้

บริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ “ที่สุดของความซ่า” เพื่อทำตลาดเชิงรุกในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญ “ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “บันจี้” และจัดกิจกรรมสื่อกลางแจ้งกว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรม “ซีเดย์” วัน “โค้ก” สุขซ่าสดชื่นทั่วไทย ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยจะแจกเครื่องดื่มโค้กทั่วไทย 1 ล้านขวด ภายใน 1 วัน

สำหรับแนวทางการทำตลาดเครื่องดื่มโค้กในประเทศไทย ยังเน้น 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การทำงานร่วมกับลูกค้าและผู้บริโภค 2.พันธมิตรที่แข็งแกร่ง เช่น ไทยน้ำทิพย์และหาดทิพย์ และ 3.การศึกษาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์พร้อมปรับบรรจุภัณฑ์ (แพ็กเกจจิง) โค้ก ขนาด 250 มล. เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภค

นายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) กล่าวว่า นับจากนี้สิ่งที่ท้าทายที่สุดของโค้ก คือ การแข่งขันกับตัวเองในการทำตลาดน้ำอัดลมในไทย เมื่อผู้บริโภคยืนอยู่หน้าตู้แช่สินค้า ซึ่งเปรียบเหมือนการเลือกตั้งว่าผู้บริโภคจะเลือกสีไหน

“นับจากนี้และต่อไป สิ่งท้าทายสำคัญในตลาดน้ำอัดลมจะเหมือนกับการเลือกตั้ง คือ การทำให้ผู้บริโภคต้องโหวตโค้กอยู่ตลอดเวลา” นายอาร์ชวัส กล่าว

ขณะที่การมีเครื่องดื่มน้ำดำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดในไทยสิ้นปีนี้ เช่น แบรนด์เอส (est) หรือรายเดิมอย่างบิ๊กโคล่า จะทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมนี้ โดยบริษัทยังมุ่งการดำเนินธุรกิจระยะยาวและทำงานร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในไทย หลังจากแบรนด์โค้กอยู่ในตลาดไทย 63 ปี และมีอายุ 125 ปีในตลาดโลก

ปัจจุบันโค้กทำตลาดใน 336 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบริษัทในไทยได้เรียนรู้การทำตลาดจากประเทศอื่นๆ เพื่อมาปรับใช้กับการแข่งขันในไทย โดยแนวทางการทำตลาดในไทยอยู่ภายใต้แนวคิด “โกลบอล สเกล-โลคอล อินไซด์ และโกลบอล อินโนเวชัน-โลคอล โนว์ฮาว” เพื่อรักษาการเติบโตของบริษัท โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตใกล้เคียงตลาดน้ำอัดลมโดยรวมอยู่ที่ 10-11%

ทั้งนี้ จากการสำรวจของเอซีนีลเส็น ระบุว่า ในเดือน ม.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดรวมน้ำอัดลมเพิ่มขึ้นเป็น 54% ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี จากเดิมอยู่ที่ 49% และเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมในไทยมูลค่า 3.85 หมื่นล้านบาท