posttoday

‘จูลี่ส์’แบรนด์ดังมาเลเซียหวนรุกสแน็กไทย

12 มกราคม 2556

นิวเวฟ เอเชีย ดึงสแน็กดังมาเลเซีย “จูลี่ส์” รุกตลาดบิสกิตไทย หวัง 3-5 ปี ปั้นยอดขาย 400–500 ล้านบาท

นิวเวฟ เอเชีย ดึงสแน็กดังมาเลเซีย “จูลี่ส์” รุกตลาดบิสกิตไทย หวัง 3-5 ปี ปั้นยอดขาย 400–500 ล้านบาท

นายสถาปน์ มุกดีพร้อม ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท นิวเวฟ เอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เพอร์เฟค ฟู้ดส์ แมนูแฟคเจอริ่ง ผู้ผลิตสินค้าบิสกิตอันดับ 1 ในประเทศมาเลเซีย ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สแน็กแบรนด์ดัง จูลี่ส์ (Julie’s) ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี จะมียอดขาย 400-500 ล้านบาท

สำหรับการทำตลาดผลิตภัณฑ์สแน็ก จูลี่ส์ จะเน้นผลิตภัณฑ์หลัก คือ บิสกิตสอดไส้เนยถั่ว ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของจูลี่ส์ พร้อมทั้งมุ่งตอกย้ำแบรนด์ว่า “Julie’s” กลับมาแล้ว...กลับมาพร้อมกับคุณภาพมาตรฐานของขนมทุกชิ้น หลังจากที่แบรนด์จูลี่ส์หายไปจากวงการบิสกิตไทยประมาณ 1 ปี

“จูลี่ส์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมานานกว่า 20 ปี โดยคนไทยคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ บิสกิตสอดไส้เนยถั่ว บิสกิตสอดไส้ชีส ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรกของจูลี่ส์” นายสถาปน์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของจูลี่ส์จะประกอบด้วย 5 กลุ่มได้แก่ กลุ่มแซนด์วิช (บิสกิตสอดไส้) กลุ่มเวเฟอร์โรล กลุ่มบิสกิตคละรส กลุ่มแครกเกอร์ และกลุ่มสินค้าอื่นๆ อาทิ โอ๊ต วาฟเฟิล ซึ่งนับจากนี้จะเน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่ายมากขึ้น

ปัจจุบัน จูลี่ส์ ส่งออกไปจำหน่ายมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งในตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ฝรั่งเศส โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

แคนนาดา ออสเตรเรีย, นิวซีแลนด์, แอฟริกา ฯลฯ

การจัดกิจกรรมในการแจกสินค้าตัวอย่างจากการไปออกบูธ เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่า จูลี่ส์ (Julie’s) กลับมาแล้ว และในอนาคตทางบริษัทฯ จะพัฒนาสินค้าอื่นๆให้เหมาะสมกับตลาดไทยมากยิ่งขึ้น”

“ณ ปัจจุบัน ยอดขายของจูลี่ส์ทั่วโลกนั้นถือว่าตลาดส่งออกอันดับ 1 คือ สิงคโปร์ ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นไทย อันดับ 2 คือ จีน ส่วนไทย จะอยู่เป็นอันดับ 3 ซึ่งในอนาคตคาดว่า ประเทศไทยน่าจะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากจีน

บริษัทฯ จะเน้นความหลากหลายของสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย อีกทั้งยังจะเพิ่มฐานลูกค้าให้ใหญ่ขึ้น” คุณสถาปน์ กล่าวทิ้งท้าย