posttoday

เคทีซีเฮี้ยบจ่ายช้า‘ขึ้นบัญชีดำ’

29 มกราคม 2556

“เคทีซี” ลงแส้ลูกค้าชำระล่าช้าเกิน 45 วัน แจ้งประวัติเครดิตบูโร บันทึกประวัติการเงิน เริ่ม มี.ค.นี้

“เคทีซี” ลงแส้ลูกค้าชำระล่าช้าเกิน 45 วัน แจ้งประวัติเครดิตบูโร บันทึกประวัติการเงิน เริ่ม มี.ค.นี้

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า ลูกค้าที่ชำระค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตเคทีซีล่าช้าตั้งแต่รอบบิลเดือน มี.ค.นี้ บริษัทจะรายงานประวัติลูกค้าว่าอยู่ในกลุ่มลูกค้าผิดนัดชำระต่อบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร ซึ่งจะมีผลต่อประวัติทางการเงินของลูกค้า รวมทั้งจะทำการปิดบัตรเครดิตอัตโนมัติ ฉะนั้นลูกค้าควรชำระค่าใช้จ่ายตรงเวลา

นายระเฑียร กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทไม่ได้รายงานข้อมูลลูกค้าที่ชำระค่าใช้จ่ายล่าช้าต่อเครดิตบูโร และยืดหยุ่นให้ลูกค้าโดยไม่ปิดบัตรเครดิต แม้ลูกค้าต้องเสียดอกเบี้ยให้กับบริษัท ทำให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งยอมจ่ายดอกเบี้ย แต่เป็นลูกค้าที่ไม่มีวินัย ซึ่งทำให้บริษัทต้องนำเงินมากันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ แม้ยังไม่เข้าข่าย 90 วัน เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการเงินสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทได้ยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถชำระค่าใช้จ่ายล่าช้าออกไปได้ 3 วัน โดยไม่เสียดอกเบี้ยและไม่รายงานต่อเครดิตบูโร ซึ่งเกณฑ์ใหม่นี้บริษัทก็ยังคงเดิม แต่่แนะนำว่าทางที่ถูกต้องควรชำระภายในวันที่กำหนด เพราะเกณฑ์ใหม่ถ้าเกิน 45 วัน ในระยะปลอดดอกเบี้ย บริษัทก็จะรายงานข้อมูลต่อเครดิตบูโร

“ตอนนี้มีลูกค้าที่ยอมจ่ายดอกเบี้ย แล้วชำระเลยกำหนดออกไปถึง 2 สัปดาห์ ทำให้บริษัทต้องกันสำรอง 100% เราถึงต้องหันมาเข้มงวด เพราะส่วนหนึ่งมีผลต่องบดุล” นายระเฑียร กล่าว

นายระเฑียร กล่าวว่า เอ็นพีแอลปีก่อนอยู่ที่ 2.9% ปีนี้จะพยายามลดให้เหลือ 2.4% แต่ในช่วงที่ปรับเกณฑ์ใหม่คาดว่าเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้น 0.30.4% ในระยะหนึ่ง เพราะลูกค้าอาจยังปรับตัวไม่ได้ ก่อนบริหารเอ็นพีแอลให้ปรับลดลง

นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มงานผลิตภัณฑ์และช่องทางจัดจำหน่าย เคทีซี กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งงบประมาณด้านการตลาด 1,000 ล้านบาท ภายใต้คอนเซปต์ “Happy Go Lucky” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเติบโต 10% จากปลายปีก่อนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรต่อเดือนน่าจะเพิ่มจาก 6,200 บาท เป็น 7,000 บาท

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทใช้งบ ประมาณการตลาดเพียง 300-400 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะเข้าไปแก้ปัญหาลูกค้าที่เจอพิษน้ำท่วม