คอนโดเมืองท่องเที่ยวล้นทะลัก

ไฮโซแห่หนีผังเมืองส่งเขาใหญ่ผุดพรึ่บหัวหินพัทยาแข่งดุ

แลนด์ลอร์ดไฮโซ งัดที่ดินเก่าเขาใหญ่ เร่งผุดคอนโดหนีผังเมืองใหม่ ขณะที่หัวหิน-พัทยา ซัพพลายใหม่ยังพุ่ง

นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ผลจากการเปลี่ยนแปลงร่างผังเมือง จ.นครราชสีมาที่จะเข้มงวดในการพัฒนาโครงการมากขึ้น ได้ทำให้นักพัฒนาที่ดินในเขาใหญ่ รวมไปถึงเจ้าของที่ดินเก่าต่างเร่งนำที่ดินออกมาพัฒนาเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนที่เข้าไปพัฒนาโครงการในเขาใหญ่ อาทิ กลุ่มคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ กลุ่มงามพรรณ เวชชาชีวะ กลุ่มมาลีนนท์ กลุ่มเตชะณรงค์ กลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม ส่งผลให้มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

“ในปีที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่มากถึง 1.407 หน่วย ซึ่งหากย้อนหลังกลับไปก่อนหน้านั้น มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ประมาณ 250300 หน่วยต่อปีเท่านั้น และคาดว่าปีนี้จะมีไม่น้อยกว่า 1,000 หน่วย ซึ่งซัพพลายที่เร่งออกมาทั้งหมดจะยังรองรับความต้องการไปได้อีก 23 ปี แต่ถ้าร่างผังเมืองมีความชัดเจนแล้วว่าจะมีการผ่อนปรนให้ยังพัฒนาได้ จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดใหม่จะมีเพียง 500 หน่วย” นางนลินรัตน์ กล่าว

นายนิวัติ ลมุนพันธ์ ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัท โฮม ซิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า บริษัทจะเปิดโครงการ มิราเคิล หัวหิน ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 1,200 ยูนิต และวิลลาอีก 18 หลัง บนเนื้อที่ 41 ไร่ บริเวณรอยต่อระหว่างชะอำหัวหิน มูลค่าโครงการรวม 5,600 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการบ้านหลังที่สองที่หัวหินทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะทำให้ความต้องการขยายตัวอีกมาก

นายสหัสชัย ขวัญชื้น รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาริสัน ผู้บริหารการขายโครงการมิราเคิล กล่าวว่า ในหัวหินขณะนี้มีคอนโดมิเนียมขายอยู่ประมาณ 6,000 ยูนิต และเตรียมที่จะเปิดขายในปีนี้อีก 6,000 ยูนิต แม้ว่าจะมีห้องชุดอยู่กว่าหมื่นยูนิต แต่บริษัทมองตลาดไปใน 23 ปีข้างหน้าที่จะยังมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าตลาดจะดูดซับไปได้ เพราะไม่มีโครงการไหนในหัวหินที่เปิดมาแล้วขายไม่หมด

ขณะที่รายงานวิจัยตลาดคอนโด มิเนียมในพัทยาของ บริษัท ไรมอนแลนด์ ระบุว่า เมืองพัทยามีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก แต่สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ การก่อสร้างจริงกับการเปิดตัวไม่สอดคล้องกัน ซึ่งผู้ซื้อต้องระมัดระวัง ก่อนที่จะตัดสินใจในการลงทุน ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างขาย หากมีการก่อสร้างได้ตามกำหนดจริงในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีห้องชุดสร้างเสร็จมากถึง 2.8 หมื่นหน่วย โดยส่วนห้องชุดที่กำลังเป็นที่นิยมระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อยู่ในระดับกำลังซื้อของผู้บริโภคยุคนี้