การตั้งหิ้งพระ-ห้องพระให้ถูกฮวงจุ้ย
ห้องพระเป็นห้องหนึ่งที่มีความสำคัญในทางฮวงจุ้ย ห้องพระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหรือวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เพื่อให้ท่านมาคุ้มครองให้คนในครอบครัวเกิดความเป็นมงคล ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง บางคนก็อาศัยมุมพระซึ่งเป็นสถานที่สงบสวดมนต์ทำสมาธิ ช่วยให้จิตใจค่อยชุ่มชื่นมีกำลังใจ ด้วยความผูกพันกับศาสนา ทำให้คนไทยให้ความสำคัญกับการตั้งหิ้งพระ อีกทั้งพิถีพิถันในการจัดวางโต๊ะหมู่บูชาให้ถูกต้องสวยงามตามลำดับ
ห้องพระเป็นห้องหนึ่งที่มีความสำคัญในทางฮวงจุ้ย ห้องพระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหรือวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เพื่อให้ท่านมาคุ้มครองให้คนในครอบครัวเกิดความเป็นมงคล ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง บางคนก็อาศัยมุมพระซึ่งเป็นสถานที่สงบสวดมนต์ทำสมาธิ ช่วยให้จิตใจค่อยชุ่มชื่นมีกำลังใจ ด้วยความผูกพันกับศาสนา ทำให้คนไทยให้ความสำคัญกับการตั้งหิ้งพระ อีกทั้งพิถีพิถันในการจัดวางโต๊ะหมู่บูชาให้ถูกต้องสวยงามตามลำดับ
บ้านทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีพระพุทธรูปบูชาประจำครอบครัว หากพื้นที่ในบ้านมีเพียงพอมักจะจัดแยกห้องพระให้เป็นสัดส่วน บางบ้านก็จะกั้นห้องนอนใหญ่ออกส่วนหนึ่ง เพื่อจัดสรรพื้นที่ทำเป็นห้องพระ แต่บางบ้านแทบจะไม่มีพื้นที่ใช้สอย ทำได้ดีที่สุดคือแบ่งมุมสงบมุมหนึ่งตั้งเป็นหิ้งพระ แต่ไม่ว่าจะเป็น “หิ้งพระห้องพระ” ล้วนมีหลักเกณฑ์ในการจัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย
ผมขอแบ่งบ้านออกเป็น 3 รูปแบบ
1.บ้านที่มีพื้นที่หรือโถงที่สามารถวางโต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่ได้เลย ซึ่งบ้านในแบบนี้มักง่ายต่อการจัดห้องพระเป็นอย่างมาก เพียงแค่ดูในเรื่องของทิศทางการหันของพระให้ถูกต้อง โดยมีหลักเกณฑ์ว่าหลังอิงของพระจะต้องทึบ และไม่เป็นผนังห้องน้ำ หรือด้านหลังมีหน้าต่าง
2.บ้านที่ต้องเสียพื้นที่ 1 ห้องสำหรับเป็นห้องพระ เหตุผลเนื่องจาก พระเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรจะไปรวมอยู่ในห้องเดียวกันกับห้องนอน เพราะเป็นห้องที่เราต้องใช้ใส่เสื้อผ้า ถอดเสื้อผ้า ซึ่งถือว่าเป็นการไม่เคารพ โดยปกติแล้วผมจะเน้นเลือกห้องที่อยู่ชั้นสูงสุดของบ้าน มีขนาดห้องที่เล็กที่สุดของบ้าน และที่สำคัญผมมักจะเน้นเป็นห้องที่พลังทิศทางเลวร้ายที่สุดด้วย เพราะห้องที่มีตำแหน่งพลังทิศทางที่ดี เราควรให้ใช้สำหรับนอนเสริมตัวเรา
3.บ้านที่เล่นระดับ โดยใช้ที่พักบันไดชั้นสุดท้าย ส่วนใหญ่ก็มักวางไว้จะอยู่ในระดับชั้น 2 ครึ่ง จากการที่ได้มีโอกาสไปตรวจสอบบ้านหลายๆ หลัง ก็พบว่าคนส่วนใหญ่มักจะวางพระหันหลังให้กับราวบันได แทนที่จะวางอิงผนังทึบ ซึ่งโดยปกติพระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการความสงบนิ่ง แต่เรากลับทำให้ปราณจากของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สงบนิ่ง ถูกรบกวนอยู่ตลอดเวลา
ที่สำคัญ บริเวณที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ควรจะสะอาด สว่าง สงบ หมั่นดูแลอย่าให้มีฝุ่นจับ เชื่อกันมาแต่โบราณว่า ปราณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพลังหยาง พวกภูติผีปีศาจจึงกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้พลังปราณหยางไหลเวียนทั่วบ้าน คนในบ้านจึงได้รับคุณประโยชน์จากพลังปราณหยางนี้
สิ่งสำคัญอีกประการ เขาจะไม่นิยมตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หันตรงกับประตูเป็นอันขาด เพราะพลังปราณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะถูกรบกวน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ขาดความสงบนิ่ง ตำแหน่งของการตั้งหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ผมขอสรุปไว้ดังนี้ครับ
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ห้ามมีราวแขวนผ้าหรือราวตากผ้า ทำให้โชคลาภติดขัด
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ตรงกับประตูห้องน้ำ เป็นการไม่เคารพ เงินทองรั่วไหล
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ห้ามอิงผนังห้องน้ำ
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ไม่ควรหันหลังให้กับบ้าน อย่างน้อยหันออกข้างบ้านถือว่าใช้ได้
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ไม่ควรไว้รวมกับห้องนอน โดยเฉพาะคู่ สามีภรรยา
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ไม่ควรวางอยู่เหนือเตาไฟ
หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา ไม่ควรวางอยู่ใต้ห้องน้ำ
การจัดฮวงจุ้ย หิ้งพระห้องพระ ถือว่าเป็นการจัดฮวงจุ้ยโดยใช้วิชาชัยภูมิ (ใช้ตาเปล่ามองเห็นได้) ซึ่งถือว่าหากทำไปแล้วจะทำให้คนในบ้าน “อยู่ดีกินดี” แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ว่าจัดฮวงจุ้ยแล้ว “รวยหรือไม่” ต้องวัดกันที่วิชา (ที่ใช้ตาเปล่ามองไม่ได้) พลังทิศทางครับ